วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ไปเรียนไปพิเศษชีววิทยา : การตอบสนองของพืช

วันนี้ตื่นเร็วขึ้นมาหน่อยเพราะต้องไปเรียนพิเศษวิชาชีววิทยกับอ.อุดมศิลป์ บทเรียนวันนี้ก็ว่าด้วยเรื่องการตอบสนองของพืช ซึ่งสรุปได้มาดังนี้...

การตอบสนองของพืชจะต้องมีการเคลื่อนไหว ซึ่งเกิดจากมา 2 สาเหตุ

1. growth movement - การเคลื่อนไหวเนื่องจากการเจริญเติบโต

2. turgor movement  - การเคลื่อนไหวเนื่องจากแรงดันเต่ง (turgor pressure)

Growth movement แบ่งออกเป็น

1. paratonic/stimulus movement -การตอบสนองจากสิ่งเร้าภายนอก
   
   1) tropism/tropic movement - ทิศการเคลื่อนที่สัมพันธ์กับทิศทางของสิ่งเร้า (โค้งเข้าหา=positive , เบนหนี = negative) แบ่งได้ดังนี้

  •  Phototropism (แสง) - positive   : ปลายยอด (ลำต้น)                                                                    

                                               -negative  : ปลายราก

  •  Thermotropism (อุณหภูมิ)
  •  Geotropism /Gravitropism (แรงโน้มถ่วง)positive : รากพืชเจริญลงดินเพื่อรับน้ำและแร่ธาตุ
                                                                                  - negative : ทิศปลายยอด/ลำต้นตรงข้ามแรงโน้มถ่วงเพื่อรับแสง  
  •  Chemeotropism (สารเคมี)
  •  Hydrotropism (น้ำ) - พืชงอกมากในที่ที่มีความชื้นมาก รากงอกเข้าหาดินที่มีน้ำ
  •  Thigmotropism (การสัมผัส) - การที่พืชเลื้อยพันหลักต่างๆ เช่น เถาวัลย์ ตำลึง พลู พริกไทย 


   2) nasty/nastic movement - ทิศการเคลื่อนที่ไม่สัมพันธ์กับสิ่งเร้า : ทิศคงที่ แบ่งได้ดังนี้

  •   photonasty (แสง) - การบาน การหุบ ของดอกไม้
  •   Thermonasty (อุณหภูมิ) - การบานของดอกบัวสวรรค์เมื่ออุณหภูมิต่ำและหุบเมื่ออุณหภูมิสูง
  •   Thigmonasty (การสัมผัส) : ไมยราบ หยาดน้ำค้าง กาบหอยแครง 

    3) Taxis / Taxic movement -การเคลื่อนไหวทั้งตัว = การเคลื่อนที่ เช่น sperm เคลื่อนเข้ารังไข่ของพืชชั้นสูง


2.  autonomic movement - การตอบสนองของสิ่งเร้าภายใน : เน้น ฮอร์โมน auxin แบ่งได้ดังนี้

    1.) nutation movement : การแกว่งหรือโยกไปมาเนื่องจากล้ำต้นส่วนยอดพืชเจริญเติบโตไม่เท่ากัน

    2.) spiral movement : การบิดล้ำต้นเป็นเกลียว เช่น พริกไทย อัญชัน ตำลึง 

     
 Turgor movement : เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของน้ำในเซลล์ ประกอบด้วย

1. contract movement - การหุบใบของต้นไมยราบ เพราะตรงโคนก้านใบ+ก้านใบย่อยมีกลุ่มเซลล์ parenchyma ที่เรียกว่า pulvinus (คุณสมบัติ 1.ใหญ่ 2.ผนังบาง 3.ไวต่อสิ่งเร้า) ทำให้เมื่อถูกสิ่งเร้าแล้วแรงดันเต่งของกลุ่มเซลล์จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทันใจด้วยการสูญเสียน้ำให้กับเซลล์ข้างเคียง ใบจึงหุบทันที แต่ผ่านไปสักครู่ น้ำก็ซึมผ่านกลับสู่ pulvunus ใหม่ แรงดันเต่งก็เลยเพิ่ม เซล์ก็เลยเต่งขึ้น ใบก็เลยกางออกเช่นเดิม
2. sleep movement (การหุบของใบยามพลบค่ำ) การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงความเข้มของแสงของพืชตระกูลถั่ว เช่น ก้ามปู มะขาม ไมยราบ ถั่ว แค กระถิน

3. guard cell movement - แรงดันเต่งลด>เซลล์เหี่ยว>ปากใบเปิด
                                                 - แรงดันเต่งเพิ่ม > เซลล์เต่ง > ปากใบเปิด


การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืชด้วยการเคลื่อนไหวแบบต่างๆที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อประสิทธิภาพในการดำรงชีวิตของพืชสรุปได้ดังนี้
1. เพื่อการเจริญเติบโต
2. เพื่อการหาอาหาร+แร่ธาตุ
3. เพื่อการเอาตัวรอดหลบหลีกอันตราย
4. เพื่อการสืบพันธุ์



plant hormone (ฮอร์โมนพืช)ควบคุมการเจริญเติบโตของพืช ประกอบด้วย

ชื่อฮอร์โมน
แหล่งผลิต
หน้าที่ควบคุม
1.ออกซิน (auxin) /indole acetic acid (IAA)
-เนื้อเยื่อเจริญปลายยอด ปลายราก แคมเบียม
- ใบอ่อน ผลอ่อน
- เยื่อหุ้มยอดอ่อน
1.ขยายขนาดเซลล์ ใบและผล
2.เร่งการเกิดราก
3.ใช้ในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
4.ยับยั้งการแตกตาข้าง
5.กระตุ้นให้รังไข่เจริญเป็นผล (โดยไม่มีการปฏิสนธิ)
6.กระตุ้นการเปลี่ยนเพศของพวกเงาะ
2. จิบเบอเรลลิน (GA)
- ผลและเมล็ดที่กำลังเจริญเติบโต
- ปลายยอดของลำต้น
- เชื้อรา
1. กระตุ้นการยืดตัวของเซลล์ระหว่างข้อ ทำให้ต้นไม้สูงขึ้น
2. กระตุ้นการงอกของเมล็ดและตา
3.กระตุ้นการติดผล
4. กระตุ้นการออกดอกของพืชที่ออกดอกเมื่อผ่านฤดูหนาว
5. เปลี่ยนเพศดอกตัวผู้ให้เป็นดอกตัวเมีย
3. ไซโทไคนิน (cytokinin)
- เนื้อเยื่อเจริญ
- ต้นอ่อนในเมล็ด
- น้ำมะพร้าว
- ยีสต์บางชนิด
1. แบ่งเซลล์
2. ชะการแก่ของผลไม้
3.กระตุ้นการตกตาข้าง
4.กระตุ้นการเกิดหน่อไม้ของแคลลัส ในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
4. เอทีลิน (Ethylene)
  เป็นแก๊ส

-ผลและใบที่แก่

1.เร่งการสุกของผลไม้
2. กระตุ้นการออกดอก
3.กระตุ้นการงอกของหัวพืชและเมล็ดพืชในระยะพัก
4. กระตุ้นการร่วงของใบไม้ ดอก ผลและการผลัดใบตามฤดูกาล
5. กระตุ้นการไหลของน้ำยาพารา
5. กรดแอบไซซิก (ABA)
เป็นสารยับยั้งการเจริญเติบโต
-ซอกใบ ตา
-หมวกราก
-ใบและผลที่แก่
1.กระตุ้นการหลุดร่วงของใบและผลนอกฤดูกาล
2.กระตุ้นการพักตัวของเมล็ด
3.กระตุ้นการแตกตาข้าง



   
*มาเพิ่มเติมแล้วจ้า

[AKB48] ว่ากันด้วยเรื่องละครโปรโมทซิงเกิล So long!

สืบเนื่องมาจากการที่ AKB48 จะวางแผงซิงเกิลที่ 30 ซึ่งเป็นซิงเกิลซากุระชื่อว่า 'So long!' นี่เอง การโปรโมทเพลงในรูปแบบละครจึงถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง โดยละครครั้งนี้จะแบ่งเป็น 3 เรื่อง 3 ทีมทั้ง A K B  ซึ่งฉายจบไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 11-13 กพ. ที่ผ่านมา

โดยวันแรกจะเป็นของ ทีม A



แสดงนำโดย ชิโนดะ มาริโกะ กับ วาตานาเบะ มายุ

วันที่ 2 ทีม K

แสดงนำโดย โอชิม่า ยูโกะ กับ มัตสึอิ จูรินะ

วันสุดท้าย ทีม B

แสดงนำโดย โคจิม่า ฮารุนะ กับ ชิมาซากิ ฮารุกะ

 แถมยังมีการเลือกตั้งด้วยนะเออ (เอากับเขาสิ) ซึ่งการเลือกตั้งจะมีสองหัวข้อด้วยกันคือ 



1.「もっともよかった作品」(ละครตอนที่ดีกว่าเรื่องอื่น)
2.「もっともよい演技をしたメンバー」(สมาชิกที่แสดงละครได้เก่งที่สุด) 



มันน่าสนุกก็ตรงนี้แหละ ตอนนี้เราเข้าเรื่องละครก่อนดีกว่า


เริ่มจากละครของทีม A



                                      

เดี๋ยวจะขอเล่าเรื่องคร่าวๆ ก่อน อาจมีผิดบ้างถูกบ้าง เพราะไอ้เรานั้นภาษายุ่นก็ไม่ค่อยกระดิกสักเท่าไหร่ แต่ก็พอดูเข้าใจ คงต้องรอคนใจดีมาทำซับให้ดูกันล่ะนะ ปล.อาจมีสปอยใครยังไม่ดูก็ข้ามได้เลยนะคะ

เนื้อเรื่องนั้นดำเนินไปอย่างเรียบๆ ในตอนแรก กล่าวถึงนางเอกซึ่งก็คือฟุตาบะ (มายุ) ซึ่งดูแล้วก็พอมองออกว่าค่อนข้างจะเป็นเด็กที่โดดเดี่ยว เป็นสมาชิกชมรมกระจายเสียงและเป็นนักเรียนบัลเล่ย์ของฮาระ คิริเอะ (มาริโกะซามะ) มาฉากแรกก็โดนป้ามาริโกะดุ (มั้ง?) เลยทีเดียว ทีนี้ก็มาถึงฉากที่มายุมาที่ห้องชมรม แล้วก็เจอเครื่องเล่นเทปเก่าๆ เทปหนึ่ง ตอนแรกก็เอาเทปไม่ออกแต่อยู่ๆ มันก็เด้งออกมาเฉย ฟุตาบะเลยลองเอามาเปิดฟังก็ได้ยินเสียงผู้ชายพูดทำนองว่า ชั้นรักเธอนะ อะไรแบบนี้เสร็จก็ร้องเพลง ฟุตาบะก็หัวเราะออกมา แล้วทีนี้ฉากมันก็ตัดไปที่มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาน่ารักเหมือนซาลาเปาน้อย =.= มาตามหาเทปที่หายไป เมื่อหาไม่เจอก็เลยอัดใหม่เนื้อหาประมาณว่าขอให้คนที่เอาเทปไปนั้นเอาเทปมาคืนด้วยไรแบบนี้ เทปมันก็เด้งมาที่ฟุตาบะ มันจะไม่มีอะไรแปลกเลยถ้าหากเทปที่เด็กผู้ชายคนนั้นอัดมันเป็นของปี 2005 ขณะที่ฟุตาบะอยู่ปี 2013 =[]=!! มันมาไงวะนั่น!? นี่แหละที่ทำให้เรื่องนี้น่าดูและน่าติดตามขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นสองคนนี้ก็สื่อสารกันทางเทปตลอด จนฟุตาบะรู้สึกชอบเด็กหนุ่มคนนั้นขึ้นมา หนุ่มน้อยซาลาเปาก็ดูจะชอบฟุตาบะเหมือนกัน แต่!! มันกลับไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ เพราะคนที่หนุ่มน้อยซาลาเปาหลงรักดันเป็นป้ามาริโกะในอดีตซะงั้น ดราม่ามันก็เริ่มตรงนี้แหละ เมื่อซาลาเปาน้อยมาบอกฟุตาบะว่าเจอผู้หญิงที่ชอบแล้วอะไรทำนองนี้ ทำให้สาวน้อยโดดเดี่ยวรู้สึกว่าตัวเองไม่เหลือใคร แล้วตอนนั้นเองที่ฟุตาบะบังเอิญไปเห็นรอยแผลที่เท้าของป้ามาริโกะ และพบว่าแท้จริงแล้วคุณครูนั้นไม่สามารถเต้นบัลเลย์ได้ดีดังเดิมอีก เราชอบฉากที่ป้ามาริโกะเอามือทุบพื้นด้วยความโศกเศร้าและเจ็บใจมาก คือแค่เห็นด้านหลังอารมณ์ก็ยังสื่อได้ชัดเจนเลย ตอนนั้นเรารู้สึกเศร้ามากเลยอ่ะ ทีนี้ฟุตาบะก็ได้รู้ความจริงอีกว่าคนที่หนุ่มน้อยซาลาเปาหลงรักคือป้ามาริโกะนั่นเอง จบการสปอยแค่นี้ (กร๊าก) เรื่องจะเป็นยังไงต่อ ก็ลองไปชมกันดูนะ

ส่วนตัวแล้วจากบรรดาละครโปรโมททั้งหมด เราชอบเรื่องนี้ที่สุด ทั้งการดำเนินเรื่อง พล็อต และตัวละคร แม้จะขัดใจไปบ้างที่สมาชิกคนอื่นออกน้อยเหลือเกิน เอาจริงๆ แล้วเหมือนมีกันแค่สองคนคือมายูยุกับป้ามาริโกะ แต่เราก็พอเข้าใจ ด้วยพล็อตและตัวเรื่อง จะให้กระจายบทขนาดนั้นคงไม่ไหวหรอกมั้ง  (แต่ถ้าจะทำจริงๆ ก็น่าจะทำได้นะ) เรื่องนี้เราประทับใจการแสดงของมายุและป้ามาก คือเราไม่ได้คาดหวังกับมายุเท่าไหร่ในตอนแรก คิดด้วยซ้ำว่ามายุไม่ค่อยเหมาะกับการแสดงละคร แต่ว่าครั้งนี้มายุแสดงออกมาได้มีเสน่ห์มากเลยทีเดียว เราดูเธอได้ไม่เบื่อเลย แถมเรารู้สึกว่ามายุแสดงละครได้ดีขึ้นมากด้วย ฉากสุดท้ายที่อยู่ใต้ต้นซากุระนั้นให้หลายอารมณ์มาก มันทั้งเหงา เศร้า และก็เหมือนว่าตัวละครนั้นพร้อมจะก้าวเดินต่อไป ฉากร้องไห้ก็สื่ออารมณ์ได้ดี กู๊ดจ๊อบ! มาพูดถึงป้ามาริโกะบ้าง ตอนแรกป้าออกมาก็เฉยๆ นะ ไม่รู้สึกอะไรมาก แต่ซีนเอามือทุบพื้นและซีนร้องไห้นี่เอาใจไปเลย!!  เนื้อเรื่องโดยรวมแล้วโอเคมาก ดูแบบไม่มีซับก็สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ และสนุกไปกับมันได้ จะให้ดูอีกหลายรอบก็ย่อมได้ =.,= ฮ่าๆๆๆ


ต่อด้วยละครของทีม K   


ละครของทีม K นั้นเป็นละครที่เราตั้งหน้าตั้งตาดูมากที่สุดเนื่องจากโอชิทั้งสองคนของเราแสดงนำ แถมแว่วมาว่าเล่นเป็นพี่น้องกันด้วยยิ่งทำให้เราตื่นเต้นมากขึ้นมาไปอีกว่าถ้ายูโกะกับจูรินะเป็นพี่น้องกันมันจะออกมาเป็นยังไง? ฮ่าๆๆ

เริ่มมาด้วยฉากที่มิโอะ (ยูโกะ) กำลังเล่นเปียโนอยู่ แล้วอยู่ๆ เธอกลับจะละทิ้งเปียโนแล้วมาหางานทำซะงั้น ทีนี้ก็มีโทรศัพท์จากน้องสาวของเธอคือสึบาซะ (จูรินะ) บอกว่าจะมาอยู่ด้วย (มั้ง) ดูเหมือนมิโอะจะไม่อยากให้น้องมาอยู่ด้วยเท่าไหร่แต่ก็ไปรับน้องอยู่ดี ไปถึงก็เจอสึบาซะกำลังยืนอยู่บนรูปปั้นเด่นหราท่ามกลางสายตาประชาชีเล่นเอามิโอะปวดหัว แถมสึบาสะนี่ออกตัวอลังการมาก เสื้อผ้าหน้าผมชีนี่อย่างเริดอ่ะค่ะ แล้วยังจะกระเป๋าสีเหลืองนั่นอีก เล่นเอาขำก๊าก ฮ่าๆๆ พอมาถึงดูเหมือนว่าสึบาสะจะพยายามให้มิโอะเล่นเปียโนให้ฟัง แต่มิโอะก็ไม่ยอมเล่นให้ฟังซะที (แน่ล่ะ คนมันจะเลิกแล้วนี่หว่า) ทางมิโอะก็มุ่งหน้าหางานทำต่อไป แต่ก็โดนเจ้าน้องตัวแสบมาป่วนทุกที (อย่างฮา) แต่ระหว่างนั้นก็มีเรื่องมาสะกิดใจมิโอะโดยที่เจ้าตัวดันไปเจอภาพตัวเองตอนเด็กที่เล่นเปียโนครั้งแรก (มั้ง) คือเหมือนยังตัดเปียโนไม่ขาดอ่ะ แถมยังมีเรื่องดราม่าขึ้นอีกเมื่อมิโอะดันไปเห็นสึบาสะเดินอยู่กับแฟนตัวเอง (ฮงโกสุดหล่อ <3) แล้วทำท่า (เหมือนจะ) จูบกัน แล้วมันก็ดันมีภาพในอดีตซ้อนทับในหัวมิโอะว่าสึบาสะก็เคยทำแบบนี้กับแฟนเก่าตนเอง มิโอะจึงเกิดอาการรับไม่ได้ อารมณ์ทั้งโกรธ เสียใจและเจ็บใจเลยมั้ง ยิ่งพอคุณน้องสึบาสะกลับมาแล้วยิ้มระรื่นหน้าตาเฉยยิ่งทำให้อารมณ์มิโอะขึ้นมากไปอีก มิโอะเลยไล่สึบาสะกลับบ้าน ถึงขั้นขอร้องเลยทีเดียว ส่วนสึบาสะก็หงอยไปเลย มิโอะเองก็ดูเศร้าไม่น้อยอาจจะรู้สึกผิดลึกๆ แต่ไม่อยากจะยอมรับ ก็แหม นั่นมันน้องสาวนี่หว่า ทีนี้อยู่ๆ ก็มีโทรศัพท์จากคุณแม่พร้อมกับข่าวว่าสึบาสะเข้าโรงพยาบาล มิโอะตกใจมากและรีบตรงดิ่งไปโรงพยาบาลทันที แล้วมิโอะก็ได้รู้ความจริงบางอย่าง (ขอไม่เฉลย ฮ่าๆ) เจ้าตัวดูสับสนมาก น้ำตาจะไหลละ แล้วคุณแฟนสุดหล่อก็เดินมาแล้วยื่นถุงกระดาษที่ตอนแรกสึบาสะจะเอาไปโชว์มิโอะแต่ไม่ได้โชว์ให้พร้อมกับพูดอะไรบางอย่าง น่าจะเกี่ยวกับสึบาสะนี่แหละแล้วมิโอะก้น้ำตาไหลออกมา ทีนี้คุณหมอก็โผล่มา จากนั้นมิโอะก็เดินเข้าไปหาสึบาสะที่ยืนอยู่ตรงดาดฟ้าของโรงพยาบาล จากนั้นทั้งคู่ก็ขอโทษและปรับความเข้าใจกันมั้ง (แปลไม่ออก ฮา) ตอนนี้บีบอารมณ์มาก ร้องไห้กันสุดๆ ไปเลย ที่นี้ฉากก็ตัดมาถึงวันงานที่มิโอะต้องเล่นเปียโน มิโอะใส่ชุดที่สึบาสะเลือกให้ งามมากค่ะ แล้วก็เล่นเปียโน ฉากนี้ซึ้งนะ ระหว่างมิโอะกับสึบาสะนั้นประดุจโลกนี้มีเพียงเราสองคนเลยทีเดียว แล้วเรื่องก็จบที่สองคนนี้เดินด้วยกันใต้ต้นซากุระ ซึ้งดี

สำหรับเรื่องนี้ พล็อตเรื่องค่อนข้างธรรมดา และไม่มีอะไรมากเท่าไหร่ เป็นการหยิบยกปัญหาเล็กๆ ปัญหาหนึ่งในสังคมขึ้นมาทำละคร คือปัญหาระหว่างพี่กับน้อง เป็นเรื่องราวหนึ่งของพี่น้องคู่หนึ่งเท่านั้น แต่มันมีเสน่ห์ขึ้นมาเพราะการแสดงอันเฉียบขาดของยูโกะและจูรินะนี่แหละ ยูโกะก็ขึ้นชื่อเรื่องการแสดงอยู่แล้ว เลยไม่อะไรเท่าไหร่ แต่คนที่ทำให้ทึ่งคือจูรินะนี่แหละ ตอนมาจิสุกะเราว่าน้องแสดงค่อนข้างแข็งเล็กน้อยนะ แต่ตอนนี้พัฒนาขึ้นมากเลยทีเดียว ทุกฉากเรียกได้ว่าน้องจัดเต็มอ่ะค่ะ อาจได้รับการฝึกปรือมาฉากยูโกะก็เป็นได้ ฮ่าๆๆๆ ยิ่งฉากเกาะกระจกนี่แบบ เอาใจพี่ไปเลยจ้ะหนู ขำก๊าก ส่วนเนื้อเรื่องสำหรับเรามันก็ธรรมดาอยู่ดี พล็อตค่อนข้างน่าเบื่อไปสักน้อย และก็มีข้อเสียเหมือนทีม A คือการกระจายบท คนอื่นนี่คือตัวประกอบดีๆ นี่เองค่ะ =_= มีบทขึ้นมาหน่อยคือคิตาริเอะ แต่ก็นะพล็อตเรื่องมันเน้นที่ปัญหาพี่น้อง กระจายบทหมดก็ไม่น่าจะไหว (มุขเดียวกับทีม A) แต่ดีอย่างที่มันมีครบทุกรส ทั้งสุข เศร้า ฮา ซึ้ง


สุดท้ายละครของทีม B


สำหรับละครทีม B นั้นเราก็ตั้งตาตั้งตารอดูไม่น้อยทีเดียว เนื่องจากเราอยากเห็นพัฒนาการของพารูรุเพราะเราคอยเอาใจช่วยตั้งแต่ได้ดู Bakaleya ต่อด้วย Majisuka 3 ซึ่งพูดตรงๆ เลยว่าพารุแสดงแข็งมาก เรื่องแรกดีหน่อยที่เล่นเป็นคุณหนู หน้าเรียบๆ นิ่งๆ แบบนั้นก็โอเค เหมาะดีเหมือนกัน แลดูสุขุม ฮ่าๆๆ แต่พอมามาจิมันเห็นได้ชัดเลยว่าพารุแสดงแข็งมาก พอมาเรื่องนี้จึงคาดหวังกับพารุไม่น้อยเลยทีเดียวว่าจะได้เห็นพัฒนาการของเจ้าตัวแค่ไหร อีกทั้งละครมันออกแนวครูกับนักเรียนซึ่งเราค่อนข้างชอบแนวนี้นะ แต่พอเอาเข้าจริงเนื้อหามันดันไปแนวเดียวกับซากุระโนะเทกามิ ทำให้ระหว่างดูเราค่อนข้างจะเบื่อไปสักหน่อย

เรื่องมันมีอยู่ว่า อาซึกะ (พารูรุ) เป็นเด็กที่แลดูเก็บกดเล็กน้อยถึงปานกลาง (อันนี้คิดเอาเอง) ไม่สุงสิงกับเพื่อน อยู่แต่กับหน้าจอมือถือคอยอัพนู่นอัพนี่แล้วจะมีคนๆ หนึ่งที่มาคอยคอมเม้นท์ให้กำลังใจเธอตลอด (ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นอาจารย์) อยู่ๆ อาจารย์โคมิยาม่า คาโอรุ (ฮารุนะ) ก็ดันมาอกว่าจะลาออกจากโรงเรียนไป แล้วอาสึกะก็ดันไปบังเอิญได้ยินว่าที่อาจารย์ออกไปนั้นก็เพราะป่วยกำลังจะตาย เธอจึงพยายามไปบอกเพื่อนๆ ถึงเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมอาจารย์จึงลาออก ดูเหมือนว่าทั้งสึสึรัน เรนัจจิ นั้นจะเศร้าและนึกถึงสิ่งที่อาจารย์เคยทำไว้ให้กับตนเอง แต่มิลกี้กลับไม่สนใจและคิดว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตนซึ่งกับให้พารูรุโกรธไม่น้อย (ขอใช้ชื่อจริงหมดเลยละกัน) แต่สุดท้ายพอมาเจอกับโอบะ มินะ เหมือนมินะจะเล่าอะไรบางอย่างให้มิลกี้ฟังและนั่นก็ทำให้มิลกี้เปลี่ยนใจ ขณะเดียวกันมันก็มีดราม่าอีกเรื่องหนึ่งคือความบาดหมางระหว่างพารูรุกับมี่จังซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุให้พารูรุเก็บตัวแบบนี้มั้ง ส่วนเหตุผลคืออะไรก็ติดตามในเรื่องนะจ๊ะ สุดท้ายเพื่ออาจารย์พารูรุจึงไปหามี่จังถึงบ้านและขอโทษแล้วบอกถึงเรื่องคุณครู มี่จังเองก็บอกว่าให้อภัยพารูรุแล้ว น่าจะเพราะอาจารย์เหมือนกัน สุดท้ายนักเรียนทุกคน (ยกเว้นมี่จัง) ก็ไปหาอาจารย์กัน แจกใบจบการศึกษากันเองเรียบร้อยพร้อมกับพูดข้อความถึงครู (มั้ง) ฮารุนะเองก็ฟังอยู่ตลอด (ฉากนอนบนเตียงสวยเวอร์) แต่ก็ขาดไปอีกคนหนึ่งก็คือมี่จังนั่นเอง  แต่สุดท้ายมี่จังก็มาแถมมาพูดถึงหน้าห้องอาจารย์ด้วยแน่ะ ส่วนเนี้ยงก็รับฟังแล้วหลับตาลงน้ำตาก็ไหล (ซึ้งมากฉากนี้) ไม่แน่ใจว่าเป็นฉากที่เนี้ยงหมดลมหายไปรึเปล่า  ทีนี้เรื่องก็จบลงโดยมีฉากซากุระเหมือนกัน โดยมีพารุ มี่จัง มิลกี้ เรนัจจิและสึสึรันเดินไปด้วยกัน จบบริบูรณ์

สำหรับเรื่องนี้ ตอนเราดู เราไม่อินเท่าอีกสองเรื่องก่อนหน้า อาจเป็นเพราะเนื้อเรื่องมันไปแนวเดียวกับซากุระโนะเทกามิ ออกแนวรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าตัดเรื่องนี้ไป เนื้อเรื่องถือว่าโอเคเลยทีเดียว ดูเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าทีม K  และซึ้งมากเลยทีเดียว 
สำหรับนักแสดงนั้น เราว่าพารุยังคงเล่นแข็งอยู่ เหมือนแต่ละฉากอารมณ์มันยังไม่สุด ทำให้เราขัดใจไม่น้อยทีเดียว ในทางกลับกันคนที่ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับดูละครเรื่องนี้คือมิลกี้ซะงั้น เราเองก็ไม่เคยเห็นมิลกี้แสดงละครมาก่อน (นอกจากในพีวี HA! แล้วน่ะนะ) ไม่เคยเหมือนกันว่าเธอจะแสดงละครได้โอเคอยู่ และฉากดราม่าคนที่ทำให้เราร้องกลับเป็นมี่จัง เราว่ามี่จังก็แสดงเก่งเอาการอยู่เหมือนกัน โดยรวมแล้วก็โอเค เราก็ยังคงเฝ้าดูพัฒนาการของพารุรุเหมือนเดิม ข้อดีอีกอย่างของเรื่องนี้คือการกระจายบท ถือว่าทั่วถึงมากเทียบกับอีกสองเรื่องที่แทบจะมีเพียงตัวเอกเท่านั้น ถูกใจแฟนๆ กันถ้วนหน้า




อย่างที่พูดไว้แต่แรกว่ามันมีการเลือกตั้งด้วย ตอนนี้ผลก็ออกมาแล้ว

ผลโหวตละคร So long! ทั้ง 3 ตอน 
อันดับหนึ่งหนึ่งได้แก่ Team B! (47,980 คะแนน)
ที่สอง Team A (39,120 คะแนน) 
ที่สาม Team K (36,240 คะแนน)

คะแนนทั้งหมดมาจากการลงคะแนนให้กับนักแสดงในแต่ละทีม ผลคะแนนที่ออกมาปรากฎว่า
1.Shimazaki Haruka (22,080 คะแนน)
2.Oshima Yuko (19,030 คะแนน)
3.Watanabe Mayu (17,000 คะแนน)
4.Matsui Jurina (13,240 คะแนน)
5.Shinoda Mariko (10,060 คะแนน)
6.Kojima Haruna (6,930 คะแนน)
7.Watanabe Miyuki (4,540 คะแนน)
8.Minegishi Minami (4,050 คะแนน)
9.Yokoyama Yui (1,540 คะแนน)
10.Kashiwagi Yuki (1,410 คะแนน)

สำหรับผลโหวตละครเรานั้นไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ แม้ว่าละครของทีม B จะเป็นละครที่เราดูแล้วเฉยๆ ที่สุดแต่พล็อตเรื่องก็น่าจะถูกใจคนส่วนมาก อีกทั้งการกระจายบทอย่างทั่วถึงก็ทำให้แฟนเทใจให้ไม่ยาก ส่วนทีม A ที่แม้จะกระจายบทได้ไม่ดีแต่ก็มีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจทำให้ได้ที่ 2 ไป และเนื่องจากเนื้อเรื่องของทีม K มันไม่ค่อยเป็นเรื่องราวเท่าไหร่เทียบกับอีกสองทีมแถมบทก็กระจายไม่ทั่วถึงทำให้พ่ายไปในที่สุด (แม้นักแสดงจะจัดเต็มกันมากก็เถอะ)

แต่ที่ทำให้เราแปลกใจคือผลโหวตนักแสดงนี่แหละ ตอนแรกเราก็คิดอยู่แล้วว่าพารุน่าจะติดหนึ่งในสิบ แต่ไม่คิดว่าจะได้ที่หนึ่งแบบนี้ เพราะที่หนึ่งที่เราเก็งไว้เล่นๆ หลังจากดูละครแล้วคือไม่ มายุ จูรินะ ก็ยูโกะ เพราะสามคนนี้จัดเต็มมาก แสดงได้เยี่ยม ทำให้เราอิน และรู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติ ดูแล้วไม่ขัดใจ เราเองก็ไม่ได้แอนตี้พารูรุหรอกนะ ออกจะเชียร์เธอด้วยซ้ำ แต่ในด้านการแสดงแล้วถ้าเทียบกับหลายๆ คนเราว่าพารูรุยังไม่เป็นที่หนึ่งในตอนนี้ (แต่อนาคตไม่แน่ รอดูต่อไป) แต่ก็นั่นแหละ นี่เป็นผลโหวต มันก็ชี้ให้เห็นเหมือนกันว่าช่วงนี้พารูรุกำลังมาแรงมาก มีแฟนจำนวนไม่น้อยที่สนับสนุนเธอ เลือกตั้งปีนี้คงมีอะไรให้ลุ้นเยอะล่ะนะ  







เน็ตล่ม T-T , Ya ya yah!

วันนี้ตื่นสายจนไม่น่าให้อภัยตัวเอง เพราะเมื่อคืนมัวแต่วุ่นวายกับบล็อก + แอร์นั้นดังสนั่นหวั่นไหวจนไม่สามารถข่มตาหลับอย่างสงบได้

พอตื่นมาก็ต้องมาพบกับความจริงที่ว่า เน็ตล่มค่ะ ล่มอลังการ โทรศัพท์บ้านก็ใช้ไม่ได้ น่าจะเป็นทั้งจังหวัดหรืออาจจะทั้งภาคใต้เลยก็ได้  ให้ตายสิพี่น้อง T-T แม่โทรไปถามเค้าก็ตอบกลับมาว่าน่าจะใช้เวลาซ่อมทั้งวัน อืม ทั้งวันจริงๆ กว่าเน็ตจะกลับมาใช้ได้ก็ปาเข้าไปบ่ายสามโมงครึ่ง

แล้วระหว่างนั้น บุคคลที่หายใจเข้าออกเป็นอินเตอร์เน็ตและขี้เกียจทำการบ้านอย่างข้าพเจ้าจะทำอะไรในวันหยุดเรียนเช่นนี้ล่ะ?

คำตอบก็คือ...ดูรายการ Ya Ya Yah ค่ะ ฮ่าๆๆๆ

สารภาพว่ามีช่วงหนึ่งที่กระหน่ำโหลดมาจนเกือบหมดปี 2004 แน่ะ แต่ก็ดองไว้ไม่ได้ดู พอมีเวลาดูก็ดันไปบ้าสาวๆ เอเคบีซะก่อน เพราะฉะนั้นวันนี้ได้ฤกษ์งามยามดี ดูติดต่อกันรวม 4 ตอนเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ

ซึ่งเทปที่เราจะกล่าวถึงนี้เป็นเทปของวันที่ 2004-04-11 (กี่ปีแล้ววะเนี่ย) 

แรกเริ่มก็อารัมภบทถึงการเต้นของเหล่าจูเนียร์ทั้งหลายอันเป็นที่มาของเกมส์ในวันนี้คือแบทเทิลแดนซ์นั่นเอง โดยจะแบ่งเป็นฝ่ายคนแก่ (=..=) และผู้เยาว์ ฮ่าๆๆ

โดยฝ่ายคนแก่มีดังนี้ : ชิเงะ คุซาโนะ เคอิจิโร่ มัสสึดะ ยูยะ และโฉะอง 
ส่วนฝั่งผู้เยาว์มีดังนี้   : ยาบุ ฮิคารุ ไทโย เคย์ อีกคนหนึ่งไม่แน่ใจ

โดยเกมส์นั้นจะให้ผู้เล่นมาเต้นตามจังหวะเพลงด้วยท่าที่คิดขึ้นเอง สองหรือสามจังหวะไม่รู้ แล้วผู้เล่นคนต่อไปต้องเต้นตามพร้อมคิดท่าใหม่ของตัวเองให้ได้ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ สลับกันไปทั้งสองฝ่าย ผู้เล่นฝ่ายไหนเต้นผิดก่อนก็เป็นอันแพ้และถูกลงโทษไป โดยผู้เล่นคนแรกก็คือ...ไทโย


แหม มาอย่างเท่ =.,= บุดูลุ้นไปมะ? ฮ่าๆๆ

สำหรับเราไทโยเป็นคนที่ไว้วางใจให้ทำเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยจะได้ กร๊ากกก เช่นพวกเล่นเกมส์อะไรแบบนี้ เป็นคนที่ดูซื่อๆ ฮาๆ น่าแกล้งทั้งที่ตัวโตกว่าใครเพื่อน แต่ถ้าเรื่องมันสมองล่ะก็ เราว่าไทโยไม่แพ้ใครเลยนะ สำหรับเกมส์นี้ไทโยทำเราอึ้งเพราะทำได้ดีมาก สุดยอดอ่ะ!

นอกจากนี้ยังมีการตัดต่อไปยังอีกกิจกรรม คือทดสอบความเป็นลูกผู้ชายอะไรสักอย่าง โดยครั้งนี้จะให้ตีกลอง (น่าจะกลองพื้นเมืองของเค้าล่ะ) ซึ่งครั้งนี้เราก็ได้เห็นช็อตบุฮิคมิเสื่อมคลายอีกแล้ว วะฮะฮ่า 


ตีกลองคู่ค่ะ ฮ่าๆๆ เข้าขากันได้ดีด้วยนะเออ =..= ขอแนะนำสาวกยาบุฮิกกะทุกคนนะคะ ว่าถ้าอยากจะเห็นโมเมนต์คู่นี้เยอะๆ ตั้งแต่วัยเยาว์แล้วล่ะก็ ไปหารายการนี้มาดูซะ แล้วคุณจะค้นพบกับแสงสว่าง (?)

อันนี้ตีกลองรวม เป็นเพลง sekai ni hitotsu dake no hana ของ Smap ค่ะ จบไปด้วยดี ฮ่าๆๆ ทุกคนเก่งมาก

พูดถึงไลฟ์ เราชอบไลฟ์ของวันนี้เหมือนกัน เนื่องจากรายการวันนี้พาเด็กๆ ไปตีกลอง ไลฟ์วันนี้เค้าถึงกับขนกลองไปไว้ที่สตูดิโอให้ยาบุฮิคกะเล่นกันเลยทีเดียว อลังการมาก 

โฮ่ๆ เท่ป่ะล่ะ =.=

อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ ยาบุฮิกกะโมเมนต์อีกแล้วค่ะท่านผู้ชม! สืบเนื่องมาจากการแข่งแดนซ์แบทเทิลผลปรากฎว่าฝั่งผู้เยาว์แพ้ไปเนื่องจากยาบุเต้นผิด ทำให้เจ้าตัวนั้นเฟลไม่น้อยเลยทีเดียว ฮิคกี้ที่รักซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ก็เลย...



ปลอบใจค่ะ กริ๊ดดดดดดดดด น่ารักมากค่ะลูก >_<///

ทางฝ่ายบุที่พอฮิคปลอบเรียบร้อยแล้วก็เลย...


หันไปจับมือกระชับมิตร =/////////////= อ๊าย มิตรภาพอันแน่นแฟ้นค่ะ ฮ่าๆๆๆ

สังเกตมานานแล้วว่านอกจากที่บุจะเป็นคนคอยสอนนู่นนี่ให้ฮิคแล้ว ฮิคก็ยังเป็นฝ่ายประคับประคองยาบุด้วย ส่วนตัวแล้วเราคิดว่ายาบุนั้นค่อนข้างเป็นเด็กที่ซนและเอาแต่ใจเล็กน้อยเนื่องจากเป็นลูกคนสุดท้อง  ส่วนฮิคนั้นก็เป็นลูกคนสุดท้องเหมือนกัน (อ้าว) แต่ว่ายังไงดีล่ะ...เราว่าทางครอบครัวฮิคนั้นค่อนข้างจะเข้มงวดทำให้ฮิคเป็นเด็กที่จริงจังและเข้มแข็งมาก สังเกตเลยว่าเวลาเล่นเกมส์แพ้ฮิคก็โวยวายนั่นแหละตามประสาเด็กแต่ก็จะกลับมายิ้มระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำใจได้อย่างรวดเร็ว ฮ่าๆๆ ขณะที่บุนั้นจะง้องแง้งไปเลย กร๊าก แต่เราว่าบุก็ง้องแง้งไปงั้นแหละที่จริง เพราะถ้าง้องแง้งงอแงเป็นนิสัยจริงๆ ก็คุมฮิคไม่ได้หรอก ฮ่าๆๆๆๆๆ ก็นั่นแหละ ด้วยบุคลิกนิสัยที่แตกต่างกันนี้ทำให้ทั้งคู่ประคับประคองซึ่งกันและกันมาจนครบสิบปีแล้ว ฮิ้ว~~

ปิดท้ายรายการอันสุดแสนจะประทับใจ คือการถ่ายรูปพุริคู่กันระหว่างคุซาโนะกับฮิคารุ...

น่ารักใช่มั้ยล่าา >O<////// รอยยิ้มไอดอลของฮิคารุ ฮ่าๆๆๆๆๆ


วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

[AKB48] Nito Moeno ประกาศจบการศึกษาออกจาก AKB48


นิโต้ โมเอโนะ...เป็นอีกคนหนึ่งที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาใน AKB ท่ามกลางสมาชิกมากมาย (รวมทั้งแฟมิลี่ก็เกินร้อยไปแล้ว) แต่สารภาพว่าไม่ค่อยได้ให้ความสนใจกับเธอสักเท่าไหร่ เนื่องจากไม่ใช่สเป็ค (?)  แต่ที่คุ้นหน้าคุ้นตาเพราะเธอเป็นคนที่มีใบหน้าที่โดดเด่นพอควร อาจจะไม่เท่าโทโมะจิน มายูยุ แต่ก็เป็นคนที่เห็นแล้วสามารถจำหน้าได้ง่ายๆ สิ่งที่ทำให้เราจำหน้าเธอได้ก็เพราะบทบาทของเธอในละคร Majisuka Gakuen นี่แหละ 

(รูปของคนอื่น ขอบคุณเจ้าของรูปค่ะ)

บทของเธอคือ บันจี้ หนึ่งในสมาชิกทีม ฮอร์โมน จะว่าไป ไอ้ทีมนี้เนี่ย ก็ใช่ว่าจะโดดเด่นอะไรนักหรอกนะ ฝีมือการต่อสู้รึก็เฉยๆ วันๆ ก็กินแต่เนื้อย่างและอัพเดทข่าวสาร แต่ว่า...มันออกกันทุกตอนว่ะค่ะ ฮ่าๆๆๆ เพราะงี้ก็เลยจำหน้าได้ไง

สำหรับนิโต้นั้นถือว่าได้เข้าเอเคบีมานานพอสมควร เธอผ่านออดิชั่นรุ่นที่ 5 มาตั้งแต่ปี 2007 รวมๆ แล้วก็อยู่เอเคบีมากว่าห้าปีแล้ว ว่ากันด้วยเรื่องบทบาทของเธอ เอาแค่ผลเลือกตั้งก่อนก็แล้วกัน เพราะอย่างอื่นเราไม่ค่อยรู้เท่าไหร่นัก...(โอชิมุโต้โปรดแนะนำ)

1st Senbatsu Election - Not Ranked
2nd Senbatsu Election - #29 (Undergirls)
3rd Senbatsu Election - #31 (Undergirls)
4th Senbatsu Election - #55 (Future Girls)


จะเห็นว่าช่วงแรกๆ อันดับของเธอค่อนข้างโอเคเลยทีเดียว แม้ปีที่ 3 จะร่วงลงมาสองลำดับก็ตาม แต่ก็ถือว่ายังโอเคอยู่นะ แต่พอมาปีที่ผ่านมาอันดับของเธอก็ร่วงลงอย่างน่าใจหาย จาก 31 กระโดดไป 55 เลยทีเดียว

ซึ่งมันก็น่าจะทำให้เธอเริ่มคิดพิจารณาเรื่องสถานะของเธอในวงแล้วล่ะนะ (คิดว่า...)

แต่เหมือนโชคก็หล่นใส่เธออีกครั้งเมื่อนิโต้สามารถชนะ 3rd Janken Taikai (งานเป่ายิงฉุบครั้งที่ 3) โดยเธอได้ลำดับสอง (พ่ายแก่พารูรุไป) นี่เป็นอีกโอกาสที่นิโต้สามารถเรียกคะแนนจากแฟนๆ ได้อีกครั้ง แต่ก็เป็นโชคร้ายของเธออีกเช่นกันที่เธอนั้นพ่ายแก่ 'พารูรุ' ผู้ที่ใครก็ดูออกว่าท่านอากิพีกำลังดันอยู่ เพราะงั้นพอเธอได้ที่หนึ่งโชคก็หล่นเข้าใส่ตู้มใหญ่ ทุกสื่อต่างจับตามองที่เธอ ในแง่ของการเป็นเซนเตอร์เพลงใหม่ และ ตัวเก็งในอนาคต รวมทั้งเป็นเด็กที่อากิพีดัน เพราะงั้นแม้นิโต้จะได้ถึงที่สอง ได้ถ่ายนิตยสารบ่อย ออกรายการบ่อย แต่ก็โดนกระแสพารรูรุกลบหมดอยู่ดี อีกทั้งเวลาไปออกไลฟ์รายการต่างๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแม้อันดับจะดีแค่ไหนแต่คนที่ตากล้องเลือกจะซูมหน้าก่อนคือเซนเตอร์และสมาชิกลำดับต้นๆ ที่ติดเซ็นบัตสึซิงเกิลนี้

บางทีนี่ก็อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งสำหรับการตัดสินใจของนิโต้ เธออาจจะคิดว่าแม้อยู่ต่อไปสถานะและตำแหน่งของเธอในวงก็ไม่ได้ดีขึ้นมา สู้ออกไปหาสิ่งใหม่ๆ ทำดีกว่า

อนึ่ง นี่เป็นเพียงแค่การคาดเดาและความเห็นจากแฟนที่ชอบคิดเรื่อยเปื่อยคนหนึ่งเท่านั้น

ยังไงก็ตาม เราขออวยพรให้นิโต้ไปได้ดีกับเส้นทางที่เธอเลือกหลังจากนี้ 

++++
ปีนี้มันดราม่าเยอะตั้งแต่ต้นปีเลยวุ้ย ทั้งมี่จัง ทั้งโทโมะจินที่ประกาศจบการศึกษา หลังจากนี้คงมีอะไรให้ลุ้นกันเยอะอีกแน่ๆ คาดว่าจะต้องมีสมาชิกที่แกรทอีกแน่นอน (แต่ไม่มีเลยก็จะดีมาก) รวมถึงเลือกตั้งปีนี้ มันส์แน่นอน 

Come Back!! & Happy Velentine Day ^w^//

ก่อนอื่น...ต้องขอแนะนำตัวใหม่อีกครั้งเพราะเผลอกดลบเอนทรี่แรกของตัวเองไปแล้ว T-T

เราชื่อ เมย์ นะคะ 
เกิดวันที่ 01/04/19xx (ฮ่าๆๆ)
สิ่งที่สนใจในตอนนี้ : มหาลัย, ญี่ปุ่น
เนื่องจากว่าตัวเรานั้นเป็นคนที่บ้าดาราไอดอลมากพอสมควร จึงจะขอจารนัยดาราไอดอลที่เราปลาบปลื้มเป็นข้อๆ วงๆ และบุคคลดังนี้

1. KAT-TUN

(รูปเก่าไปสินะ OTZ)

วงนี้คือรักแรกเลยทีเดียว สารภาพว่ารู้จักเพราะนิยาย เรื่องมันมีอยู่ว่า มีนักเขียนคนหนึ่งแต่งนิยายแนววัยรุ่นขึ้นมา มันเป็นเช็ตๆ ล่ะนะ เช็ตนี้คือเช็ตยากุซ่า เราเองก็ตามนิยายเซ็ตนี้มาตั้งแต่เล่มแรก ช่วงนั้นเค้ามักจะใช้อิมเมจดารานักร้องญี่ปุ่นเป็นตัวละครทั้งนั้น อาทิเช่น Miyavi, โทชิยะ (Dir en grey), มาโกโตะ เป็นต้น จนกระทั่งนิยายเล่มที่สองของเซ็ตนี้ก็กำเนิดขึ้น เนื่องจากอ่านมาตั้งแต่เซ็ตแรก พอพระรองเล่มนู้นมาเป็นพระเอกของเล่มนี้เราจึงอ่านต่อไป (ฮ่าๆๆ)

และแล้วก็เจอแจ็คพ็อต เมื่ออาเจ๊นักเขียนท่านเลือกบุคคลผู้นี้มาเป็นอิมเมจพระรอง นั่นก็คือ...อคานิชิ จิน! ตอนแรกก็ไม่เอะใจหรอกว่าอินี่มันเป็นใคร แค่รู้สึกว่าหน้าตาหล่อดีเท่านั้น แต่อาเจ๊นักเขียนแกดันอัพรูปพี่ท่านทุกตอนที่มีพี่แกออก (หมายถึงตัวละครที่พี่แกเป็นอิมเมจ) ความหล่อก็เริ่มกัดกิน (?) หัวใจมาเรื่อยๆ...จนกระทั่งวันหนึ่ง ตอนนี้เพลงใหม่ของ KAT-TUN เพิ่งออก ปลายปี คือ White x'mas อาเจ๊นักเขียนก็เอาเพลงนี้มาแปะเป็นส่วนหนึ่งของนิยายพร้อมกับบอกว่าให้ดู และบอกว่าคุณจินในพีวีนี้ให้ฟีลพระรองนิยายเจ๊แกมาก...

เอาแล้วไงล่ะ = =;; ในเมื่อนักเขียนที่เราชื่นชมจัดมา เราก็จัดไป จิ้มดูอย่างว่อง ติดใจตั้งแต่เสียงเปียโนขึ้นท่อนแรก ฟังและดูไปเรื่อยๆ รู้สึกชอบในตัวเพลงมาก มันซึ้งกินใจดี ซึ่งเราก็ชอบเพลงแนวนี้ (หารู้ไม่ว่ากำลังถูกหลอก ฮ่าๆๆ) ตอนนี้ติดใจเสียงทัตจังมาก (อุเอะดะ ทัตสึยะ) ฟังแล้วรู้สึกมันมันนุ่ม ละมุนและรื่นหู แต่ตอนนั้นไม่ได้โฟกัสอะไรมาก เพราะอยู่ในอาการหา 'คุณพระรอง' ในพีวีไม่เจอ (คือจินมันสวมฮู้ด ไอ้เราก็เห็นแค่รูปไม่กี่รูปเลยจำไม่ได้)

หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไป เราก็ฟังเพลง white x'mas เรื่อยๆ จนกระทั่งนิยายจบ แต่เซ็ตนี้มันไม่หมดเพียงเท่านี้ค่ะ มันมีเล่มสามต่อค่ะพี่น้อง ซึ่งแน่นอน! พระรองจากเรื่องที่แล้วต้องมาเป็นพระเอกเรื่องนี้ และแล้วคุณอคานิชิ จิน ก็ได้รับบทพระเอกเต็มตัว ฮ่าๆๆๆ แต่!!...มันไม่ได้มีแค่นั้นค่ะ คือนอกจากจะมีพี่จินรับบทเป็นพระเอกแล้ว อาเจ๊นักเขียนก็เล่นขน KAT-TUN มารับบทตัวละครต่างๆ อย่างเมามันส์เลยค่ะพี่น้อง เรียกได้ว่าขนกันมายกวงยกเว้นทัตจังเพราะไม่มีบทเหลือให้แล้ว (โถป้า TwT) 

ทีนี้แหละเรื่องราวสนุกๆ ก็เกิดขึ้น โดยที่เรากับเพื่อนสนิทตอนนี้มานั่งแยกกันว่าไอ้ตัวละครคนนี้มันตรงกับคนๆ ไหนในพีวี white x'mas แยกอยู่นาน ตอนแรกเราสับสนจินกับทัตจัง (ทำไปได้ OTL) สุดท้ายก็แยกออกและได้ข้อสรุปกลับมาว่า เราตกหลุมรัก (?) อคานิชิ จิน ส่วนเพื่อนเรา ปลื้มจุนโนะเป็นที่เรียบร้อย...

ทว่า เรื่องมันหาได้จบเพียงเท่านี้ คือไรเตอร์ท่านอัพเรื่องนี้ช่วงๆ เราปิดเทอม แล้วตอนนั้นเองที่ KAT-TUN ออกซิงเกิลใหม่ 'Rescue' ซึ่งไรเตอร์ก็เอาพีวีเพลงนั้นมาอัพอีกเช่นเคย เพลงนี้เป็นอีกเพลงหนึ่งที่เราชอบมาก มันทั้งติดหูและมีสไตล์ดี แต่เกือบจำหน้าคุณพระเอก (เรื่องใหม่) ไม่ได้ คือ...นั่นมันเสก โลโซเวอร์ชั่นยุ่นเหรอคะ? ผมเผ้ายุ่งเหยิง แว่นดำอีก โอย แต่โอเคค่ะ หล่ออยู่ดี  ฮ่าๆๆ และนอกจากไรเตอร์จะเอาพีวีมาอัพให้ดูแล้วเจ๊แกยังบอกให้ไปหาเมกกิ้งมาดูด้วยพร้อมเตือนว่าระวังฝันสลาย (ห๊ะ?) ไอ้เราก็ทำตามค่ะ แต่ไปจิ้มผิด กดเอาเมกกิ้งของ white x'mas แทน ตอนดูนี่หน้าเหวอมากคือเบื้องหลังต่างจากในพีวีราวฟ้าเหว โดยเฉพาะพี่คิ ประทับใจพี่แกมาก คือพี่แกอิมเมจโหด ไม่คิดว่าเบื้องหลังจะติ๊งต๊องฮาๆ ถึงขนาดนี้ ฮ่าๆๆ

หลังจากนั้นเราก็ตามดูพีวีของ KAT-TUN ในยูทูป และก็ได้ค้นพบว่าแนวเพลงมันแนวป๊อปร็อคนี่หว่า ฮ่าๆๆๆ แต่เราก็ชอบแนวนั้นเหมือนกัน มันส์ดี พร้อมทั้งหาประวัติวงไปด้วย อีกสิ่งที่ทำให้เราสนใจวงนี้มากขึ้นก็เพราะชื่อวงนั่นล่ะ...KAT-TUN เกิดจากการเอาอักษรตัวแรกของนามสกุลแต่ละคนมาเรียงกัน โห คิดได้ไง =O=
K (A)-Kamenashi Kazuya
(A)-Akanishi Jin
T-Taguchi Junnosuke
T-Tanaka Koki
U-Ueda Tatsuya
N-Nakamaru Yuichi

นั่นแหละหลังจากนั้นก็ตามมาเรื่อยๆ จนเป็นบ่อเกิดให้ข้าพเจ้าติดไอดอลมาจนถึงทุกวันนี้ (พรมลิขิตสินะ =w=)
อนึ่ง...แม้อคานิชิ จิน บุคคลที่เราชื่นชอบที่สุดจะแยกตัวออกไปมีหนทางเป็นของตัวเองแล้ว ข้าพเจ้าจะสนับสนุน KAT-TUN ต่อไป


2.Hey!Say!JUMP

(ชอบรูปนี้เป็นพิเศษ)

วงนี้ออกแนวไม่รู้เหมือนกันว่าจุดเริ่มต้นมันคืออะไร ฮ่าๆๆๆ
เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนม.2 เราก็ได้รู้จักเพื่อนข้างๆ ห้อง นามแฝง Bซัง ว่าเพื่อนคนนี้ชอบ KAT-TUN เหมือนกันนะ รู้สึกจะชอบคาเมะ เราเลยไปชวนคุย อันที่จริงเพื่อนคนนี้ก็ไม่เชิงว่าจะชอบแบบตามอย่างจริงจังหรอกนะ เค้าไปแนวสาย J-ROCK มากกว่า คุยไปคุยมา Bซัง ก็เอานิตยสาร J-SPY มาให้เราดู แล้วแนะนำวง HSJ ให้ ตอนนั้นสะดุดตาชี่มาก (จิเน็น ยูริ) คือหน้าตาเด่นเตะตา ตอนนั้นคิดว่าชี่หล่อเวอร์ (ปัจจุบัน : มันสวยกว่าตรู TwT) พอเราชี้รูปชี่แล้วบอกว่าคนนี้หล่อดี B ซังก็เลยใส่เลยค่ะ บอกว่าให้ไปหาพีวี Ultra Music Power มาดู เสียงชี่เด่นมาก ร้องคอรัสให้ยาบุ (งงครับท่าน ตอนนั้นยาบุเป็นใครยังไม่รู้เล้ย) แต่ก็กลับบ้านมาหาดู แล้วก็เจอ Mayonaka no shadow boy ซะก่อน เห็นวิวมันเยอะดีเลยจิ้ม พอทำนองขึ้นปุ๊บติดหูปั๊บเลยค่ะ แอบรู้สึกว่ามันให้ฟีลแบบอาหรับๆ กร๊ากกก ตอนนั้นจำได้แต่หน้าชี่เลยไม่ค่อยดูใครเท่าไหร่ กดฟังเพลงอย่างเดียว จำได้ว่าฟังไปหลายรอบอยู่

พอทีนี้อยู่ B ซังก็มาบอกว่า อยากรู้ว่าเจ้าพวกนี้มันเรียนอยู่ที่ไหนกันบ้าง ให้ข้าพเจ้าไปหามาให้หน่อย เราเลยต้องไปหาประวัติดู (มันหลอกตูให้ไปศึกษาค้นคว้าป่ะวะ?) พอหาประวัติเท่านั้นแหละ ปวดหัวมาก สิบคน!? เยอะไปมั้ยพี่ จำชื่อกันไม่หวาดไม่ไหวค่ะ ฮ่าๆๆๆ แต่สักพักก็จำได้เอง ตอนนั้นก็กวาดดูรูปในกูเกิ้ลผ่านๆ ตาบ้าง 

และแล้ววันหนึ่งเราก็เปิดช่องหนังของ True ดู เค้ากำลังนักสืบคิวพอดี แล้วเราก็สะดุดตายามะจัง แบบว่าทำไมเด็กนี่หน้าคุ้นๆ? เคยเห็นที่ไหนวะ พยายามไล่เรียงความคิดในสมองแล้วจู่ๆ วง HSJ ก็ผุดขึ้นมาในหัว สองเท้ารีบวิ่งไปเปิดคอมเสิร์ชรูปอย่างว่อง และแล้วก็ชัดเลยค่ะ ! เด็กคนนั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกของวง Hey!Say!JUMP OwO โอ้ว แม่นจริงตู 

ทีนี้ก็ได้ตาม HSJ มากขึ้น ตอนนี้เราเล่นแต่เว็บ dek-d ช่วงนั้นเค้าอัพกระทู้เกี่ยวกับ HSJ เยอะ เลยค่อยๆ รู้จักไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็ชอบไปแล้ว ฮา

อนึ่งสมาชิกที่ข้าพเจ้าชื่นชอบที่สุดนั่นก็คือ ยาโอโตเมะ ฮิคารุ นั่นเอง!

จบคำแถลงการณ์ (?)


3. AKB48


รู้จักวงนี้มาตั้งแต่ม.ต้น แต่ไม่ได้สนใจอะไรมาก รู้แค่ว่า คนเยอะ ฮ่าๆๆๆๆ แค่นี้จริงๆ OTZ

แต่มีช่วงหนึ่งที่ได้ดูพีวีของสาวๆ ใน pingbook  น่าจะตอนที่เพิ่งขึ้นม.3 นั่นแหละ รู้สึกติดใจเพลงของสาวๆ ไม่น้อย จำได้ว่าตอนนั้นโหลดมาสามเพลงคือ Yuuhi wo Mite Iruka, 10 nen sakura ส่วนอีกเพลงนี่ไม่แน่ใจ รู้สึกว่าเพลงมันฟังง่ายและทำให้รู้สึกดีเวลาได้ฟัง แต่ก็ไม่ได้ตามอะไรอีก

จนกระทั่งวันหนึ่ง ตอนนั้นดู music station สาวๆ มาออกด้วย ขนมาแทบทั้งวง ไอ้เราก็ดูโดยที่ไม่รู้จักใคร รู้แค่ คนเยอะมาก เยอะเวอร์ สิ่งที่ทำให้เราประทับใจคือโชว์ของสาวๆ ในวันนั้น คือเพลง Sakura no shiori เพราะมาก~~ กลายเป็นหนึ่งในเพลงโปรดไปเลย ตอนนั้นงงมากว่าวงเกิร์ลกรุ๊ปเค้าทำเพลงแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย นึกว่าร้องๆ เต้นๆ กันอย่างเดียว หลังจากนั้นเราก็จดชื่อเพลงไว้แล้วไปหาพีวีในยูทูปดู

พีวีสวยมาก ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมสุดๆ เลย สาวๆ สวยทุกคน เป็นธรรมชาติมากด้วย แต่ตอนดูครั้งแรกก็มึนกับจำนวนคนที่เยอะเวอร์เหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ และก็จบแค่นั้น (again)

จนกระทั่งปลายปีที่เพลง Beginner ออก  Bซังก็เข้ามาบอกว่าไปหาโหลดเพลงนี้มาให้หน่อย ชีหาโหลดไม่ได้ เริ่มแล้วอีกแล้วค่ะ วังวนไอดอล ฮ่าๆๆๆ พอเราได้ลองฟังเพลงนี้ดูก็รู้สึกชอบมาก โคตรแนวอ่ะ เพลงอย่างเท่ และติดหูมาก (อีกแล้ว) มองวงนี้เปลี่ยนไปเลย ช่วงนั้นตามบอร์ด siamzone ด้วย พอดีมีคนเอา live เพลงนี้มาลง ยิ่งดูก็ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ หาดูไลฟ์เพลงนี้เรื่อยๆ เลย ฮ่าๆๆ และที่ประทับใจคือ เราสังเกตได้ว่าชุดของแต่ละคนนั้นไม่ซ้ำกันเลย คือคอนเซ็ปเดียวกันแต่รายละเอียดย่อยจะต่างกันอยู่ เลยรู้สึกว่าสตาฟวงนี้โคตรเทพ ฮ่าๆๆ พอได้ดูพีวีเพลงนี้ (แดนซ์เวอร์ชั่น) ก็แอบรู้สึกนะว่ามันโป๊นิดๆ =.= แต่พอเจอซิงหน้าร้อนอย่างโพนี่เทล หรือคาชูฉะเข้าไป เพลงนี้เบาะๆ ไปเลย กร๊ากกก รู้สึกว่าตอนนั้นเราจะสับสนหน้าตาของอัตจังกับยูโกะด้วย นึกว่าเป็นพี่น้องกันด้วยซ้ำแน่ะ

ทีนี้ดูคลิปไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอพีวีเฮฟวี่โรเทชั่น เห็นวิวเยอะดีเลยลองกดเข้าไปดู ถึงกับ 'เงิบ' ฮ่าๆๆๆ คือตอนนั้นรับไม่ได้โคตรๆ ขอสารภาพ รู้สึกว่ามันโป๊ไปอ่ะ ทำให้ความรู้สึกต่อภาพลักษณ์วงนี้ติดลบไปหน่อยนึง แต่ยอมรับว่าตัวเพลงนั้นติดหูมากถึงมากที่สุด ฟังแล้วอยากฟังอีก ตอนนั้นเลยเปิดแต่เพลง ไม่ดูพีวี ฮ่าๆๆๆ แต่ตอนนี้เหรอ =..=....ดูมันได้รู้วัน จากมองว่าน่าเกลียดกลายเป็นน่ารักเฉยเลย กร๊ากกก

หลังจากนั้นก็มีเรื่องราวของเอเคบีแว่วเข้ามาในหูไม่ได้ขาด (ยังคงไม่ได้ตามจริงจัง) เพิ่งมาตามจริงจังเอาช่วงตอนเข้าม.4 เทอม 2 แล้วมั้ง และก็ศึกษาเรื่องราวของวง ทำความเข้าใจระบบของวงได้อย่างรวดเร็ว (เมพไป -*-) ตามดูพีวีจนหมดยูทูป ดูสารคดี แฝงตัวในบอร์ด (กร๊าก) ยิ่งทำให้ได้รู้ประวัติหลายอย่างของเอเคบี ที่จริงคงไม่สนใจขนาดนี้หรอกถ้าไม่บังเอิญไปเจอข้อความในเน็ตว่า 'พวกเธอลำบากกันมามาก ถึงขั้นแจกใบปลิวเองก็มี' นี่แหละที่ทำให้เราสนใจวงนี้อย่างจริงจัง ตอนนี้ตามเหนียวแน่นจนลามไปวงน้องสาวแล้ว ฮ่าๆ

อนึ่ง กว่าข้าพเจ้าจะหาโอชิให้ตัวเองได้ก็ใช้เวลานานอยู่ จนในที่สุด เธอผู้นี้ก็มานั่งอยู่ในใจ...


โอชิม่า ยูโกะ!

ยูโกะสำหรับเรานั้น ไม่ใช่คนสวยอะไรเลย หน้าตาก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรด้วย หากเทียบจริงๆ แล้ว เราว่า มายูยุ ยูกิรินหรือโทโมะจินยังมีใบหน้าที่โดดเด่นกว่าเยอะ แต่สิ่งที่ทำให้เราต้องมาลงหลักปักฐานอยู่กับเธอผู้นี้ก็เพราะ...

เสน่ห์และรอยยิ้ม

ด้วยความบังเอิญที่เราได้มาเจอคลิปนี้

ยูโกะ >>จิ้มซะ!

เป็นคลิปไลฟ์เพลงเฮฟวี่ที่โฟกัสแค่ยูโกะคนเดียว ทำให้เราได้เห็นว่าการแสดงของผู้หญิงคนนี้ช่างมีเสน่ห์จริงๆ เหมือนเธออินกับเพลงและสนุกกับมันจากข้างใน เธอยิ้มเพราะเธอสนุกและมีความสุขจริงๆ และนั่นแหละที่ทำให้รอยยิ้มของผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์มากที่สุด แถมยูโกะยังเต็มที่กับการแสดงมาก ดูแล้วรู้สึกไปแล้ว ขณะที่บางคนที่เราดูแล้วแบบ อือ เค้ายิ้ม แต่ก็แค่ยิ้มเฉยๆ อ่ะ

ยูโกะเป็นคนที่มีเสน่ห์มาก ยิ่งได้มารู้จักตัวตนว่าเป็นคนหื่นๆ เกรียนๆ ฮาๆ แล้วยิ่งชอบ ไปดูคลิปบ้าๆ ของยูโกะแล้วก็ยิ่งรัก เราชอบคนที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอ่ะนะ กร๊ากก

ไว้วันหลังจะมาสาธยายถึงสาวๆ อีกที 

คาดว่าคงจะตามวงนี้ไปอีกนาน ฮ่าๆๆๆ (อย่างน้อยก็จนกว่ายูโกะจะแกรทล่ะนะ)



4. EXO


เป็นวงเกาหลีวงแรกและวงเดียวที่เราชอบ ฮ่าๆๆๆ ปกติเราไม่ค่อยจะถูกจริตกับสายเกาหลีเท่าไหร่ (ก็อยู่สายเจมาตลอดนี่หว่า) คือไม่ได้แอนตี้อะไรหรอกนะ แต่แค่มันรู้สึกว่าไม่ค่อยโดนเท่านั้นเอง อีกอย่างภาษาเกาหลีกับเราเป็นอะไรที่เข้ากันไม่ได้ ฮ่าๆๆ ไม่ว่ายังไงก็ฟังไม่เคยรู้เรื่องจริงๆ กับภาษานี้ OTZ 

แต่แล้ววันหนึ่งไอ้คุณเพื่อนสนิทที่รักนามแฝง T ก็ดันไปบ้าวงนี้ขึ้นมา แล้วก็เกิดอาการถ้ากูบ้าเพื่อนกูต้องบ้าด้วย จากนั้นช่วงปิดเทอมม.4 ใกล้เปิดเทอมม.5 ไอ้คุณเพื่อนมันก็แปะคลิปเอ็มวีเพลง Mama ให้ดู เนื่องจากว่ามันรู้ดีว่าเราไม่ถูกกับภาษาเกาหลีเลยเนียนส่งเวอร์ชั่นจีนของ EXO-M มาให้ก่อน 

วินาทีแรกทีเพลงนี้ขึ้น ความรู้สึกแรกเลยคือ สะดุ้ง! ฮ่าๆๆๆ คือเริ่มมาอย่างหลอน ยังกับบทสวดไรสักอย่าง แต่รู้สึกว่ามันแนวดี เพลงก็ติดหูด้วย อลังการเวอร์ มีพลังมาก บวกกับการที่มีการเล่าเรื่องก่อนขึ้นเอ็มวีทำให้ยิ่งดูน่าสนใจมากขึ้นไปอีก และด้วยความที่เราเป็นคนชอบอะไรแปลกใหม่จึงทำให้เราประทับใจวงนี้ได้ไม่ยาก ฮ่าๆๆ แต่ก็มีปัญหาเหมือนกัน คือ คนเยอะ -*- ทำเอามึน งง และสับสนมาก คือสมาชิกหกคนมันก็ไม่เยอะหรอก แต่พอเอาทั้ง K และ M มารวมกันแล้วมันเยอะมาก ในเอ็มวีก็ดันมีฉากที่โผล่ครบทุกคนอีก มึนมากค่ะ

จากนั้นมันก็ส่งเวอร์ชั่นเคมาให้ ตอนนั้นก็งงว่ามันจะทำมาทำไมตั้งสองเวอร์ชั่น แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ

นั่นเป็นจุดเริ่มต้น หลังจากนั้นก็พยายามจดจำชื่อและแยกหน้าทุกคน ไอ้คุณเพื่อนมันก็เนียนส่งฟิคมาให้อ่าน แล้วก็ติดมาจนถึงทุกวันนี้ The End

อนึ่ง : สมาชิกที่ข้าพเจ้าปลาบปลื้มมากที่สุดคือ ปาร์คชานยอล (EXO-K)  คริส (EXO-M)

อนึ่ง2 ไอ้คุณเพื่อนสนิทที่ลากข้าพเจ้ามาวังวนเด็กดาวนั้น ณ ปัจจุบัน มันกำลังขังตัวเองอยู่ในคุกที่มีชื่อว่า 48 prison ทิ้งให้ข้าโดดเดี่ยวเดียวดายต้องนั่งยานไปกลับระหว่างโลกกับดาว EXO อยู่เพียงผู้เดียว =______=



+จบแค่นี้สำหรับประเด็นไอดอล ที่จริงยังมีอีกหลายวง แต่บรรยายหมดไม่ไหว ไอ้เราก็เป็นพวกชอบพร่ำเพ้อไปเรื่อยอยู่ด้วยสิ +



วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์...
ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกนะ สำหรับคนไม่มีคู่เช่นเรา แหม ก็เพิ่ง 16 เองนี่นา จะรีบมีไปไหนกัน ฮ่าๆๆ (ปลอบใจตัวเองเฉยๆ U_U)
มีพิเศษอยู่อย่างหนึ่งก็คือ...น้องชายมาบอกรัก...=_=;; ขอบคุณมากค่ะไอ้น้องรัก

วันนี้ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ ตื่นสายมาก เกือบสิบโมงแน่ะ เนื่องจากโรงเรียนหยุดเพราะครูไปดูงานที่เมืองทอง หยุดมาตั้งแต่วันอังคารแล้วแน่ะ หยุดยาวมากจริงๆ ฮ่าๆๆๆ

สิ่งที่ทำในวันนี้ก็คือ ดูละครโปรโมทซิงเกิล so long ของทีมเอและทีมเค (ไว้ว่างๆ จะมานั่งวิจารณ์ ฮ่าๆ)  ส่วนทีมบีทางเว็บประจำของเรายังไม่มีคนเอามาลง น่าจะได้ดูพรุ่งนี้แหละมั้ง นอกนั้นก็ฟังเพลง ดูคลิป ร้องเพลงโคฟเวอร์เรื่องเปื่อย นั่งอ่านดราม่าสาวๆ (ฮ่าๆ) อ่านฟิคและนิยาย ไปดูบ้านใหม่ที่กำลังก่อสร้าง (เมื่อไหร่จะเสร็จฟะ!?) ห้องเรายังดูจืดๆ อยู่ คงต้องรอให้ช่างเค้าทาสีเสร็จล่ะนะ ตอนนี้เริ่มติดเหล็กดัดแล้ว สวยดี แม่ดูเหมือนจะเครียดไม่น้อยเพราะต้องตามคุมงานเนื่องจากช่างทำงานไม่ละเอียด (น่าด่านักแล)

วันนี้พ่อไม่มาล่ะ เห็นบอกว่าจะไปเฝ้าปู่กับย่า

วันนี้พล่ามนานมาก เพราะงั้น Oyasuminasai ^_^