วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ว่าด้วยเรื่องทุน APU - การเตรียมตัว การสัมภาษณ์

เอาล่ะ เนื่องจากตอนนี้ชีวิตคือว่างมาก อยู่บ้านไม่มีไรทำ รอไปเรียนเดือนกันยานู่น เลยมาทำประโยชน์อะไรกับชาวโลกเสียหน่อย

จากเอนทรี่ก่อนดูเหมือนว่าจะมีคนสงสัยเรื่องทุน APU อยู่ เราจึงจะมาอธิบายทุกอย่างไว้ในเอนทรี่นี้เลยก็แล้วกันนะจ๊ะ 



APU ย่อมาจาก Ritsumeikan Asia Pacific University เป็นมหาวิทยาลัยอินเตอร์แห่งหนึ่งในญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงเลยทีเดียว ด้วยจุดเด่นที่มหาลัยนี่มีนึกศึกษาต่างชาติกับญี่ปุ่นเป็นสัดส่วนครึ่งต่อครึ่งทำให้มหาลัยแห่งนี้กลายเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมนานาชาติไปโดยปริยาย โดยมหาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองเบ็บปุ จังหวัดโออิตะซึ่งเป็นเมืองที่โดดเด่นด้านออนเซ็นแถมค่าครองชีพไม่ค่อยสูงมาก มหาลัยนี้จึงเป็นอีกหนึ่งมหาลัยที่นักศึกษาต่างชาติให้ความสนใจมากทีเดียว

อันที่จริงแล้ว จุดเด่นของมหาลัยนี้อีกอย่างที่ดึงดูดนักเรียนม.ปลายวัยใสหัวใจเอนทรานซ์ให้เข้ามาสมัครกันก็คือ 'ทุน' 

ใช่ค่ะ...ทุน =.,=

ทางมหาลัยจะมีทุนลด 'ค่าเล่าเรียน' ตลอดระยะเวลา 4 ปี เรียกได้ว่าให้จนจบการศึกษาเลยนั่นเอง โดยจะมีทุนให้ตั้งแต่ 30% 50% 65% 80% ไปจนถึง 100% เลยค่ะ ซึ่งทุนนี้จะพิจารณาจาก

1. ผลการเรียนในระดับชั้นม.ปลาย (ไม่ต่ำกว่า 3.00)
2. คะแนนความสามารถทางภาษาอังกฤษ พวกไอเฟล ไอเอล โทอิค
3. ผลการสอบสัมภาษณ์
4. เรียงความภาษาอังกฤษ
5. Portfolio 

อันตัวข้านั้นได้ทุน 80 % มา ผิดหวังนิดหน่อย (อยากได้ 100% อ่ะ TwT) แต่ก็โอเค ดีกว่าไม่ได้ล่ะวะ ฮ่าๆ

อนึ่ง ทุนนี้เป็นแค่ทุนค่าเล่าเรียนเฉยๆ นะ ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นเช่น ค่าหอ ค่ากินค่าอยู่นี่ต้องทุน พกมก. (พ่อกูแม่กู) โอนลี่ค่ะ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไป เมื่อไปถึงโน่นเราสามารถขอยื่นทุนได้อีกค่ะ มีสปอนเซอร์คอยสนับสนุนอยู่ พวกทุนค่ากินค่าอยู่ไรงี้ แล้วแต่เงื่อนไข อันนี้เรายังไม่ได้ไป ยังไม่ขอ อธิบายได้ไม่มาก


เอาล่ะ มาว่าด้วยเรื่องมหาลัยกันต่อ มหาลัยตอนนี้มีเปิดอยู่ด้วยกัน 2 คณะคือ

1. College of International Management (APM) 
2. College of Asia Pacific Studies (APS)

รายละเอียดย่อยของคณะก็ไปหาอ่านที่เว็บของมหาลัยกันเองนะ ฮ่าๆๆๆๆ


ตอนนี้เราจะมาพูดถึงขั้นตอนการสมัคร  อย่างแรกเราต้องเตรียมเอกสารประกอบการสมัครก่อน ซึ่งมีดังนี้

1. แบบฟอร์มการสมัคร หาโหลดได้ที่ http://admissions.apu.ac.jp/apply/download_form.html ไม่ก็สมัครออนไลน์ก็ได้นะ โดยต้องสมัครเป็นสมาชิกในเว็บของมหาลัยก่อน แล้วกรอกข้อมูลไปเรื่อยๆ ตามที่เค้าให้กรอก อันนี้บอกไว้ก่อนสำหรับคนที่จะชำระเงินค่าสมัครผ่านบัตรเครดิตนะคะ ต้องสมัครทางเว็บเท่านั้น แต่ถ้าโอนเงินผ่านทางธนาคารทั่วไปก็ทำวิธีไหนก็ได้ค่ะ

2. ผลการเรียนภาษาอังกฤษฉบับจริง ถ้ายังไม่จบม.6 ก็ยื่น 5 เทอม แต่ถ้าจบแล้วก็ยื่น 6 เทอมค่ะ

3. ผลการสอบภาษาอังกฤษ มี 3 อย่างให้เลือกคือ 1. TOEIC (700 ขึ้นไป) 2. TOEFL (61 ขึ้นไป) 3. IELTS (5.5 ขึ้นไป) หรือถ้าไม่มีก็เอาแบบฟอร์ม English Proficiency Evaluation ไปให้อาจารย์สอนอังกฤษที่โรงเรียนกรอกประเมินให้เราก็ได้ค่ะ แต่แนะนำว่าให้ยื่นคะแนนดีกว่าค่ะ ส่วนที่มีคนถามว่าคะแนนไม่ถึงยื่นได้มั้ย ขอตอบว่ายื่นได้ค่ะ แต่ถ้าต้องการทุนโดยเฉพาะ 80% ขึ้นไปก็ต้องเขียน essay ให้ได้อย่างเทพ สัมภาษณ์อย่างเลิศ ซึ่งเราขอแนะนำว่าไปสอบดีกว่าค่ะ พยายามที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น เหมือนเราก็ไปสอบโทอิคมาตั้ง 3 ครั้งแน่ะ 5555+ 

4. เรียงความภาษาอังกฤษ-เขียนตามหัวข้อที่ได้มาเลยค่ะ จะมีสองTopic ใหญ่ๆ เขียนเสร็จใครไม่มั่นใจก็เอาไปให้อาจารย์ช่วยเกลาภาษาให้ก็ได้ค่ะ แต่ขอย้ำนะคะว่าต้องเขียนเอง จริงอยู่ที่กรรมการอาจจะไม่รู้ว่าเราเขียนเองจริงหรือเปล่า แต่อย่าไปจ้างเลยค่ะ ส่วนตัวคิดว่าจะตรงนี้ยังทำเองไม่ได้ ต้องไปจ้างเอา ถึงเวลาเรียนจริงก็ไม่ไหวหรอกค่ะ อ้อ ในใบสมัครจะมีอีกหน้าหนึ่งให้เขียนสำหรับคนที่ต้องการขอทุน อีกหนึ่งหัวข้อนะ ใครไม่ขอก็ข้ามไป

5. หนังสือรับรองจากทางโรงเรียนภาษาอังกฤษฉบับจริง - เอกสารรับรองว่าเรียนจบแล้วไรทำนองนี้ ถ้ายังไม่จบก็ขอเอกสารยืนยันสถานภาพนักเรียนแทน

6. สำเนาหนังสือเดินทาง

7. Recommendation Letter แนบมากับใบสมัครแล้ว ให้อาจารย์กรอก ให้ดีเป็นครูอังกฤษ

8. รูปถ่าย 2 ใบ ขนาดนิ้วครึ่ง

9. หลักฐานการชำระเงินค่าสมัคร / สลิป

เอาล่ะหลังจากที่เราส่งเอกสารเหล่านี้ไปหมดเรียบร้อยแล้ว ทางมหาลัยก็จะออกตารางสัมภาษณ์มาให้ เราก็ไปตามคิวของเราค่ะ ให้ดีควรไปก่อนสัก 20 นาที 

สำหรับการสัมภาษณ์ ควรเตรียมตัวยังไงบ้าง???

การสัมภาษณ์นั้นจะใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาทีค่ะ โดยจะมีอาจารย์สองท่านคอยสัมภาษณ์เรา อาจารย์ใจดีและเป็นกันเองค่ะ ไม่ต้องกังวลไป รีแลกซ์เข้าไว้ ตื่นเต้นได้แต่อย่าถึงขั้นประหม่า

มีคำถามอะไรบ้าง....?

เอิ่ม เท่าที่จำได้นะ

1. ไหนลองแนะนำตัวเองซิ - เราก็แนะนำไปค่ะ ชื่อแซ่อะไร มาจากที่ไหน เรียนรร.ไร อยากเข้าคณะอะไร ซึ่งนำมาสู่คำถามต่อไป.... 

2. ทำไมถึงอยากเรียนเข้าคณะนี้ล่ะ - เราบอกไปว่าอยากเรียน APS สาขา IR ค่ะ เลยตอบไปว่าอยากเป็นฑูตไรงี้ 5555+ อันนี้แล้วแต่คณะนะคะ บอกเหตุผลของเราไปเองเลยค่ะ

3. คิดว่าปัญหาระหว่างไทย-ญี่ปุ่นตอนนี้คืออะไร - อันนี้อาจารย์จะถามให้โยงกับคณะที่เราเลือกค่ะ เหมือนเราเลือก IR อาจารย์เลยถามปัญหาระหว่างประเทศ ดูว่าเราสนใจเหตุการณ์ความเป็นไปของโลกมั้ย? 555+ข้อนี้เราแถค่ะ ขอไม่เปิดเผยว่าตอบไรออกไป พูดไปพูดมาโยงเข้าการเมืองค่ะ (ช่วงนั้นมีม็อบ) เลยเข้าสู่คำถามข้อต่อไปต่อ =O=

4. ถ้าหากคุณเป็นคนเดียวที่สามารถแก้ไขปัญหาของไทยในตอนนี้ได้ คุณจะทำยังไง - โอ้วเบเบ้ ข้อนี้หินมาก มัน-หิน-มาก!!!! ไม่สามารถทำไรได้นอกจากแถต่อค่ะ (ไม่เปิดเผยเช่นเคย)

5. คุณคิดว่า ถ้าได้อยู่ APU แล้วจะทำกิจกรรมอะไรบ้าง - แน่นอนว่าต้องตอบเหมือนกันทุกคนคือ Thai Week!! 555+ แล้วก็แถมไปอีกหนึ่งกิจกรรม ข้อนี้แล้วแต่เช่นกัน อยากทำไรก็บอกเค้าไปเลยค่ะ บอกเหตุผลไปด้วยก็ดี

6. คุณจะทำอะไรในกิจกรรม Thai Week - ตอบเหมือนกันทุกคนเช่นกันคือ รำไทยค่ะ!! ถามว่ารำเป็นมั้ย ก็ไม่นะคะ ข้อนี้ตอบตามอัธยาศัย จะตอบว่าระบำไทเก๊กก็ได้ไม่ว่ากัน (ห๊ะ?)

7. ถ้าให้เลือกระหว่างเป็นผู้นำกับผู้ตามคุณจะเลือกอะไร? 


คำถามก็ทำนองนี้แหละค่ะ มีอีก แต่ไกด์ให้แค่นี้พอ กร๊ากกก (อิงก!) โดยรวมแล้วก็ถามความเห็นของเรานั่นแหละค่ะ คำถามจะเป็นไปตามคณะที่เราเลือก ไม่เหมือนกันแล้วแต่คนค่ะ ถ้าเลือกคณะอะไรไปก็เตรียมข้อมูลไปหน่อยก็ดีค่ะ เหมือนบริหารธุรกิจอาจจะถามเกี่ยวกับเศรษฐกิจไรงี้ แต่ไม่ต้องซีเรียสมากค่ะ คำถามค่อนข้างโอเพ่น ให้เราแสดงความเห็นมากกว่า เค้าดูทัศนคติของเราด้วยรวมถึงการใช้ภาษาอังกฤษว่าสามารถพูดคุยตอบโต้เขาได้รึเปล่า ของเราก็ลื่นบ้างติดขัดบ้าง แต่ก็ให้ระลึกไว้ว่าจงเป็นตัวของตัวเองค่ะ แสดงความมุ่งมั่นในการจะเข้ามหาลัยนี้ให้มากที่สุด คิดอะไรไม่ออกก็จงยิ้มสู้!! เคนะทุกคน ^O^! 



วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

[Thai Trans] A PAGE - Akanishi Jin

You and I You and I You and I
You and I You and I You and I


คุณและผม คุณและผม คุณและผม
คุณและผม คุณและผม คุณและผม

I got 2, 5 years to tell yall about

25 tears I cried and set aside for a bitch that lied
Now I sit inside can't believe that i tried
But I'd let it all go just to know
Did you really trust in me or was it just a show
Now the shows that I go get a little bit longer
And the motivation gets a little stronger

ผมใช้เวลากว่า 2,5 ปีเพื่อที่จะบอกพวกคุณเกี่ยวกับ

25 หยดน้ำตาที่ผมเสียไปและหยุดทุกอย่างเพื่อยัยจิ้งจอกจอมหลอกลวง
ตอนนี้ผมได้นั่งลง ไม่อยากเชื่อเลยว่าผมจะอ่อนล้ามากขนาดนี้
แต่ผมจะปล่อยทุกอย่างไปเพื่อที่จะลองดูหน่อยว่า
คุณเชื่อมั่นในตัวผมจริงๆ หรือว่าทุกอย่างเป็นแค่การแสดงฉากหนึ่ง
ยามนี้การแสดงต่างๆ ที่ผมไปดูมันเริ่มจะยืดเยื้อขึ้นไปอีกนิด
และการกระตุ้นก็เริ่มรุนแรงขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว 


So it's on her she dropped that ball
In the summers when i fall
Cuz you made that call
I keep moving on with my mind on the goal
Nothing could a stopped this, my cups not full


ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับคุณที่เคยทิ้งบอลลูกนั้นลง
ในฤดูร้อนที่ผมเพลี่ยงพล้ำ
เพราะสายโทรศัพท์จากคุณนั่นไง
ผมได้ก้าวต่อไปเรื่อยๆ ด้วยเป้าหมายที่ตั้งมั่นเอาไว้ในจิตใจ
ไม่มีอะไรมาหยุดผมได้ แก้วของผมยังไม่เต็มหรอกนะ

Now it shows that you didn't all know
When I had to let it go
So you hear my heart fall
Let us break it down


ตอนนี้มันก็เห็นได้ชัดแล้วว่าคุณไม่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมดเลยสักนิด
ตอนที่ผมต้องปล่อยทุกอย่างไป
เพราะงั้นคุณได้ยินเสียงหัวใจที่แตกสลายของผมแล้วใช่มั้ย
เรามาทำลายมันไปด้วยกันเถอะ


Easily you understand
Easily I had a plan
Even if you make me fall
Just know I'm gonna take a stand


ง่ายๆ คุณเข้าใจได้แน่
ง่ายๆ ผมมีแผนเอาไว้แล้ว
แม้ว่าคุณจะทำให้ผมเพลี่ยงพล้ำก็เถอะ
แค่รู้ไว้ว่าผมจะสร้างจุดยืนของผมเองขึ้นมาก็พอ


You and I You and I You and I
You and I You and I You and I


คุณและผม คุณและผม คุณและผม
คุณและผม คุณและผม คุณและผม

Pray for protection when i step on the stage
Let the lights of this life blast the pain away
And I know there was nothing
that you could ever tell me it's true
I had it all figured out and now I'm running it through
Stay moving dust starts to settle around


ภาวนาเรียกหาการปกป้องยามที่ผมได้ก้าวขึ้นไปบนเวที
ให้แสงสว่างของชีวิตทำลายความเจ็บปวดนี้ไป
และผมรู้ว่าไม่มีอะไรเลย
ที่คุณจะบอกผมได้ว่านี่คือเรื่องจริง
ผมคำนวณทุกอย่างเอาไว้แล้วและตอนนี้ผมก็กำลังวิ่งฝ่ามันไป
ปัดฝุ่นออกไปสักนิดเพื่อเริ่มตั้งรกรากกันใหม่


Gave up a little life just to gain a little ground
How'd make it this far without your love in my life
Carry me close to your heart
I know it's hard
An nothing can compare when the feeling is there
You got a little something something love-in like
you never had nothing frontin just to get up and go
I'd do it all for you
and I know you know


ยอมแพ้ในชีวิตเล็กๆ นี้ไปสักนิดเพื่อให้ได้พื้นที่เพิ่มมาอีกหน่อย
ผมจะมาไกลขนาดนั้นได้อย่างไรถ้าปราศจากความรักจากพวกคุณ
ให้ผมได้เข้าไปอยู่ใกล้ๆ หัวใจของคุณเถอะ
ผมรู้ว่ามันยาก
ความว่างเปล่าสามารถเปรียบเทียบได้เมื่อมีความรู้สึกอยู่ตรงนั้น
คุณมีบางสิ่งบางอย่างเล็กๆ บางสิ่งที่ดูคล้ายกับความรัก
คุณอาจไม่เคยมีสิ่งที่ต้องเผชิญหน้ากับมันมาก่อน ไม่เป็นไร แค่ลุกขึ้นและก้าวไป
ผมจะทำทุกอย่างเพื่อคุณ
และผมก็รู้ว่าคุณต้องทราบมันดี



The sound that lingered in my ears was made by your tears
That told me that you love me wanna make it last
But we only had what is done is bad
Now I look to the sky just to cry



เสียงจากหยาดน้ำตาของคุณที่ดังก้องอยู่ในหูผม
เสียงที่บอกว่าคุณรักผมและต้องการให้รักครั้งนี้ยืนยาวตลอดไป
แต่พวกเรามีเพียงแค่สิ่งเลวร้ายที่ได้ทำลงไปแล้วเท่านั้น
ตอนนี้ผมแหงนหน้าขึ้นมองฟ้า เพื่อจะปล่อยหยดน้ำตาเพียงเท่านั้น



So forgive and let's live this life that i missed
Let's hit this live say hello with a fist
We wished we knew now we can't stop it
You didn't make it I just can't top it
So I ask will you bless me please
Expanding my territories
North and south just hear his mouth
The hands get weak and knees give out


เพราะงั้นได้โปรดให้อภัยและให้ผมได้ดำเนินชีวิตในส่วนที่ขาดหายต่อไป
ทำลายชีวิตนี้ทิ้งไปซะ ทักทายด้วยกำปั้นซะหน่อย
เราหวังว่าเราจะตระหนักกันได้แล้วว่าเราไม่มีทางหยุดมันได้
คุณไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก เป็นผมเองที่ควบคุมมันไม่ได้
ดังนั้นผมขอให้คุณอวยพรให้ผมหน่อยได้ไหม
ขยายอณาเขตของผมไป
จากเหนือจรดใต้ขอแค่ฟังทุกอย่างจากปากของเขา
มือคู่นี้อ่อนล้า เข่าคู่นี้ทรุดลง 


You and I You and I You and I
You and I You and I You and I

คุณและผม คุณและผม คุณและผม
คุณและผม คุณและผม คุณและผม

I got 25 years to tell yall about
25 tears I cried and
set aside for a bitch that lied
Now I sit inside can't believe that i tried
But I'd let it all go just to know
Did you really trust in me or was it just a show
Now the shows that I go get a little bit longer
And the motivation gets a little stronger


ผมใช้เวลากว่า 2,5 ปีเพื่อที่จะบอกพวกคุณเกี่ยวกับ
25 หยดน้ำตาที่ผมเสียไปและหยุดทุกอย่างเพื่อยัยจิ้งจอกจอมหลอกลวง
ตอนนี้ผมได้นั่งลง ไม่อยากเชื่อเลยว่าผมจะอ่อนล้ามากขนาดนี้
แต่ผมจะปล่อยทุกอย่างไปเพื่อที่จะลองดูหน่อยว่า
คุณเชื่อมั่นในตัวผมจริงๆ หรือว่าทุกอย่างเป็นแค่การแสดงฉากหนึ่ง
ยามนี้การแสดงต่างๆ ที่ผมไปดูมันเริ่มจะยืดเยื้อขึ้นไปอีกนิด
และการกระตุ้นก็เริ่มรุนแรงขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว 


Original Trans by signal-yt1
Edit Trans by Maychanhikka


ตอนนี้เกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย อย่างที่ทุกคน (?) คงรู้กันเรื่องคริสหรืออู้อี้ฟานได้ยื่นฟ้องค่าย sm และมีเหตุการณ์น่าเศร้าตามมาตลอด 6 วันที่ผ่านมานี้

สมาชิกอันฟอลไอจีพี่คริส...
แฟนคลับหลายคนเริ่มทิ้งเขาไป...
แฟนคลับเริ่มคาดเดาและวิเคราะห์กันไปต่างๆ นาๆ ก่อนจะเริ่มแตกคอกัน แบ่งฝักแบ่งฝ่าย และเริ่มทะเลาะกันเพราะความเห็นที่แตกต่าง

ไม่ว่าใครต่างก็เจ็บปวด

ทั้งสมาชิกอีก 11 คนที่ต้องเหน็ดเหนื่อยเพราะคอนเสิร์ตที่กำลังจะถึงในอีกไม่กี่วันนี้ ทั้งพี่คริสที่ตอนนี้ไม่รู้อยู่ที่ไหนไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

รวมถึงแฟนคลับ...ที่ต้องรับรู้ทุกอย่างผ่านตัวอักษรหน้าจอคอม ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือก็ดี หรือคำพูดที่สาดเทกันไปมาจากเมนคริสและเมนคนอื่นๆ ก็ดี 

ได้อะไรเหรอ? มันได้อะไรเหรอนอกจาก 'ความเจ็บปวด'

เรารู้ทุกคนโกรธ เรารู้ทุกอย่างเสียใจ โดยเฉพาะคนที่โกรธพี่คริสที่ทิ้งทุกอย่างไว้ให้เมมเบอร์คนอื่นๆ แบกรับเอาไว้ เรารู้ว่าในเรื่องนี้พี่คริสผิดจริงที่ทำให้ทุกอย่างมันรวนและสับสนวุ่นวายมากขนาดนี้ เราเองก็คิดเหมือนกัน

แต่ขอได้ไหม

ช่วยรอเขาออกมาพูดอะไรอีกหน่อยได้ไหม ให้โอกาสเขาพูดความรู้สึกของเขา เหตุผลของเขาที่ทำไปทั้งหมด

เมื่อถึงเวลาที่เรารู้ 'ความจริง' ทุกอย่างแน่ชัด ไม่ว่าจะจาก sm ก็ดี หรือจากปากพี่คริสเองก็ดี..

ถึงเวลานั้นมันก็ยังไม่สายไม่ใช่หรือที่คุณจะตัดสินเขาจากการกระทำนี้

จะโกรธเขาก็ได้ จะเกลียดเขาก็ได้ ขอแค่ตอนนี้ ในยามที่ทุกอย่างไม่แน่นอน ในยามที่ทุกคนกำลังสับสนและเสียใจ จับมือกันไว้ให้แน่นๆ ก่อนไม่ได้หรือ? 

อนึ่ง เราเห็นข่าวพี่คริสแล้วนึกถึงเพลงนี้ของจินขึ้นมา เพลงที่เขาแต่งไว้ก่อนที่จะจาก KAT-TUN ไป เหมือนเป็นภาพสะท้อน เหมือนเป็นเดจาวู แม้ว่าเหตุการณ์จะต่างก็เถอะ แต่มันก็มีแต่ความเจ็บปวดเหมือนกัน เลยหยิบมาแปลใหม่ บางอย่างก็คงคำแปลเดิมจากที่เขาแปลไว้แล้วเพราะภาษาเค้าสวยกว่าเรา

สุดท้ายนี้ รักนายนะอู๋ฟาน รักพวกนายนะ EXO






วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2557

ได้ทุน APU...สำเร็จแล้วนะ ^_^

วันนี้เป็นอีกวันประวัติศาสตร์วันหนึ่งก็ว่าได้!

เป็นวันที่เราตื่นเต้นสุดชีวิต ตั้งแต่ยังไม่เริ่มวันใหม่ ทั้งยังลงทุนแหกขี้ตารอยันตีสอง...

ถามว่ารออะไรงั้นเหรอ?

"ประกาศผล APU" ยังไงล่ะ!! ฮ่าๆๆๆ

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง อุวะฮะฮ่า ปูเสื่อรอจนรากงอกละ ตั้งแต่วันที่ไปสอบสัมภาษณ์ก็ผ่านมา 21 วัน = 3 สัปดาห์พอดี

ถ้าดูบล็อกตอนที่ผ่านมาก็จะเห็นว่าเราไปสอบโทอิคหลายต่อหลายครั้ง เพื่ออะไร?

ก็เพื่อมายื่น APU นี่แหละจ้ะ!!

รอยันตีสองก็ยังไม่ประกาศ ตื่นมาตอนเช้าก็ยังไม่มีเมล์ส่งเข้ามา รอแล้วรอเล่า จนกระทั่งทนไม่ไหว โทรไปหาแยมจัง ให้แยมจังโทรไปเช็คหน่อย

ผลตอบกลับมาว่า...

"วันที่ 17 มีนาคมเป็นวันที่ทางมหาลัยส่งผลทางไปรษณีย์ ส่วนการแจ้งผลทางอีเมล์จะประกาศในวันที่ 18 มีนาคมค่ะ"

หืม??

ไหนตอนสัมภาษณ์สตาฟบอกว่าส่งเมล์วันที่ 17 ไง??????????
.
.
.
นี่ตูข้าแหกตารอเพื่ออาร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


แต่ก็นะ เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือเมย์ยังมีแยมจัง

แม่นางรอถึงตีสามเจ้าค่ะ โอ้วววววววววววววววววววววววววว


ตอนนั้นเป็นช่วงสิบโมงเห็นจะได้ หมดแรง ขี้เกียจรอ ปลง รอลุ้นพรุ่งนี้ไปเลยแล้วกัน

เมื่อปล่อยวางได้ก็อ่านนิยายชิลๆ เจ้าค่ะ

พอเที่ยงครึ่งหม่อมแม่ก็มารับไปทานข้าว ระหว่างโซ้ยขนมหวานอยู่นั่นเอง แยมจังก็โทรไลน์มา...เสียงสั่นๆ

"เมย์ เมย์ได้ 80%"
.
.
.
ห๊ะ!!??? 

ไหนว่าประกาศพรุ่งนี้ไง รู้ได้ยังไง๊!!!!

สรุปคือเช็คในเว็บได้ก่อน สมองเบลอมากตอนนั้น ก่อนจะได้สติแล้วถามแยมจังกลับไปว่าแยมจังได้เท่าไหร่

"เราไม่ได้"

ชิบหายละ ข้าพตรูน่าจะเอะใจตั้งแต่เสียงนางสั่นๆ แล้วป่ะวะ

เราเงียบไปชั่วอึดใจ พยายามปลอบแยมจังที่กำลังร้องไห้อยู่อย่างเต็มความสามารถ เราไม่รู้จะปลอบยังไงดี เพราะเราก็เสียใจเหมือนกันที่แยมจังไม่ได้

ทั้งที่ตั้งใจจะไปอยู่ด้วยกันแท้ๆ

ทำไมวะ ทำไมแยมจังไม่ได้ อยากให้แยมจังได้อ้ะ โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ 

ปลอบกันไปเกือบครึ่งชั่วโมงเราก็ต้องวางสายเพราะเราต้องไปขอใบรับรองแพทย์ที่โรงพยาบาลที่นำมาซึ่งความหงุดหงิดในเวลาต่อมา ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

ที่จริงขณะนั้น เราก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันนะ

อย่างที่รู้ ใครๆ ก็อยากได้ทุน 100% ...เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น 

ลึกๆ แล้วก็ผิดหวังนะ

แต่ก็นะ ความสามารถไม่มี บารมียังไม่ถึง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ได้แค่นี้ก็ดีแล้วล่ะ เนอะ ^^ 



อย่างน้อยพ่อแม่ก็ภูมิใจในตัวเรามากแล้วล่ะ

ย้อนกลับมาตอนขอใบรับรองแพทย์ มีเรื่องหงุดหงิดล่ะ...

คนเยอะมาก รอคิวนานมาก แล้วที่นานไม่ใช่สาเหตุหลักที่คนเยอะนะ 

หมอยังไม่มา 

คือร่ะ??? บ่ายโมงกว่าแล้วนะ ยังไม่มา!!?? คนไข้ก็รอไปสิ ได้ยินคนไข้ด้านหลังทั้งบ่นทั้งด่าหมอกับโรงพยาบาลไฟแลบแล้วอื้อหืม...

มีอะไรอีกหลายอย่างที่รัฐสวัสดิการยังต้องแก้ไข้อีกเยอะนะเนี่ย =O= 

เราไม่ค่อยมาโรงพยาบาลเลยไม่ค่อยรับรู้ปัญหาอะไรพวกนี้เท่าไหร่ แต่พอรู้แล้วรู้เลย =__=

ขอขอบคุณคุณป้าด้านหลัง ที่บ่นกับคนข้างๆ (ให้เราได้ยิน) ฮ่าๆๆ แม้บางอย่างป้าจะบ่นด้วยอารมณ์อันคุกรุ่นแต่เราก็สัมผัสได้ว่ามันจริง 

เอาใบรับรองแพทย์เสร็จก็บ่ายสองกว่า (ไปบ่ายโมง =_=) กลับบ้านมาก็นั่งครุ่นคิดว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี?

APU : ทุน 80 % VS. เทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น : ทุน 100 %

คือถ้าได้ทุน APU 100 % เราก็ไม่ลังเลที่จะไปหรอก ไม่ลังเลเลยสักนิด แต่ว่าได้ 80 % มีภาระค่าเทอมสองแสนกว่าเยน....

ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะเพ่ =[]=!!

ประเด็นไม่ได้มีแค่ตรงนั้น สองแสนกว่าเยนถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ราคาพอกับม.อินเตอร์บางที่น่ะแหละ ถูกกว่าด้วยซ้ำ แต่...!!!

ค่าครองชีพที่ญี่ปุ่นมันอภิมหาโคตรแพงเลยนะขอรับ!

เกรงใจพ่อ เกรงใจแม่ ถ้าคิดค่าครองชีพ ค่าหอพัก รวมกับ ค่าเทอมแล้ว มันหนักเอาการ...

ทำไงดี ถ้าอยู่ไทยไม่ต้องเสียค่าเทอมสักบาท ค่าครองชีพก็ไม่ได้สูงมาก เรียนบริหารธุรกิจ

ถ้าอยู่ญี่ปุ่น ค่าครองชีพสูง เสียค่าเทอมปีละสองแสนเยน เรียนสังคมศาสตร์เอกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

อยากอยู่ญี่ปุ่น....แต่ก็กลัว

อยากเรียนที่ญี่ปุ่น....แต่ก็เกรงใจพ่อแม่

ในหัวคิดวนเวียนอยู่กับที่ทั้งวัน คิดแล้วคิดอีก จนกระทั่งแม่มาบอกว่า พ่อกับแม่ให้ลูกไปญี่ปุ่นนะ

น้ำตาไหล...

บอกไม่ถูกทั้งปริ่ม ทั้งตื้นตัน ทั้งกลัว และที่สำคัญ...เกรงใจ

แต่อยากไป...

สุดท้าย...เราตัดสินใจว่าจะไป ^_^ พ่อยิ้มแม่ยิ้ม

รักพ่อกับแม่ที่สุดเลย 

แล้วลูกสาวคนนี้จะตั้งใจเรียนนะคะ!

สัญญา 


 

วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ปัจฉิมนิเทศน์ : จบม.6 แล้ว

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง...

วันที่พวกเรารอคอยมากว่า 3 ปีตั้งแต่ขึ้นม.ปลาย...ปัจฉิมนิเทศน์

รู้ตัวอีกทีก็จบม.6 ซะแล้ว

เวลาผ่านไปเร็วดีเนอะ

หลังจากนี้ไปก็จะเป็นการเริ่มต้นใหม่!

ไม่มีอีกแล้วที่นั่งหน้ากระดานริมหน้าต่าง วิ่งหอบกระหืดไปเข้าแถวเพราะมาสายประจำ เนื่องจากเรานั่งหน้าสุดทำให้ไม่ค่อยรู้เห็นนักว่าเพื่อนๆ ด้านหลังเป็นยังไง รู้อย่างเดียวก็คือ....

แม่งโคตรวุ่นวาย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

แต่....ก็สนุกโคตรๆ เหมือนกัน ^^

ถึงจะไม่ค่อยแสดงออก แต่เรารักเพื่อนๆ ทุกคนเลยนะ ขอบคุณสำหรับเสียงหัวเราะ ความสุข ความเศร้าและทุกๆ อย่างที่ร่วมทำกันมา เราจะเก็บเรื่องราวเหล่านั้นไว้เป็นความทรงจำของเราตลอดไป




6/7
.
.
.



ว่าจะเล่าถึงการปัจฉิมนิเทศน์ในวันนี้ซะหน่อย วันนี้ข้าพเจ้าก็ยังคงสเต็ปมาสายเช่นเคยจน น้ำฟ้า (บล็อควันนี้ขออนุญาติใช้นามจริง) ต้องโทรตามกันเลยทีเดียว เมื่อไปถึงก็ต้องวิ่งสู้ฟัดเพราะเขาเริ่มจัดแถวกันแล้ว ไอ้เราก็วิ่งลำบากเพราะกรอบแว่นหัก เลนส์ก็จะหลุดอยู่รอมร่อ แต่ถ้าไม่วิ่งก็ไม่ทันอีก อนาถได้อีกชีวิต =__=;;

และแล้วก็มาถึงแถวได้อย่างรอดปลอดภัย

ไม่มีที่ว่างก็เนียนไปแทรกน้ำฟ้ากับตามแม่งเลยค่ะ กร๊ากกกกกก (อิเลว)

แต่ก็มีเรื่องระทึกเล็กน้อยเมื่อน้ำฟ้านึกอยากจะไปหยิบการ์ดที่ทำให้เพื่อนๆ มาแจกขึ้นมา แต่ตอนนั้นก็ใกล้เวลาเคารพธงชาติกันแล้ว ข้าพเจ้ากับน้ำฟ้าก็วิ่งสู้ฟัดกันอีกรอบ สุดท้ายก็ไม่ทันเข้าแถวก็เลยร้องเพลงชาติกันในห้องพักครูวิทยาศาสตร์ที่ใช้เก็บกระเป๋านั่นแหละ ฮ่าๆๆๆๆๆ

เหลือบไปเห็นเจ๊ปิ่นอนงค์ (อาจารย์สินภาษาไทยสุดเลิฟ) ที่กำลังแต่งหน้าทำผมอยู่.....

โอ้วแม่เจ้า อลังกว่านี้มีอีกมั้ยคะจารย์?

ชุดสีฟ้าแสบตายาวถึงเข่ามีเสื้อคลุมสีฟ้าทับอีกทีพร้อมด้วยรองเท้าส้นสูงสีฟ้าอีกคู่ บนศีรษะอาจารย์กำลังติดหมวกขนนกสีขาวใหญ่เท่าฝาบานอยู่...

ไฮไลท์ของงานจะเป็นเจ๊ปิ่นเสมอนะฮ๊าฟฟฟฟฟฟฟฟ

เอิ่ม ตัดประเด็นเจ๊ปิ่นไป วันนี้มีสิ่งผิดปกติอีกหนึ่งอย่างก็คือ...

ม.6 ร้องเพลงชาติดังมาก =[]=!!!

คือปกติไม่เคยร้องกันเลยไงคะพี่น้อง ร้องก็เสียงแผ่วยังกับมด วันนี้กระหึ่มมากจนเรากับน้ำฟ้างงกันตาแตกกันเลยทีเดียว

แต่ก็เนอะ...วันสุดท้ายแล้วนี่นะ ^^

พอร้องเพลงชาติจบเรากับน้ำฟ้าก็วิ่งสู้ฟัดไปที่แถว ทันสวดมนต์ไหว้พระกันพอดี หลังจากพิธีหน้าเสาธงเสร็จสิ้น เราก็ดำเนินการเดิินแปรแถวรับดอกไม้จากน้องๆ กัน ระหว่างนั้นน้ำฟ้าก็แจกการ์ดแขวนคอให้ทุกคนในห้อง น่าร้ากกกกกกจุงเบย

 น้ำฟ้าได้ดอกไม้และของขวัญเยอะมากกกกกกก สมกับเป็นเซเล็บจริงๆ เบย =..= เราก็ได้นิดหน่อยอ่ะนะ ก็สมควรอ่ะนะ พอดีเป็นคนเก็บตัวไม่ค่อยสุงสิงชาวบ้าน (ุถุ้ย!)
แนนกับเพลงก็ได้เยอะเหมือนกัน ก็สองคนนี้น่ารักนี่หว่า =w= ส่วนผู้ชายก็ได้เยอะกันไปตามระเบียบ คือก็เพิ่งรู้อ่ะนะว่าผู้ชายห้องเราฮอตในหมู่รุ่นน้องมากขนาดนี้ =___=;;

มาต่อมน้ำตาแตกตอนเดินวนกลับไปไหว้ครูนี่แหละ โดนครูจองล้อเลย แง

ได้ดอกไม้จากหลานรหัสแล้วก็เด็กๆ แกงค์คอสเพลย์กับน้องของสาวิตรี หลังจากนั้นก็ไปถ่ายรูปที่ซุ้มที่น้องม.5จัดให้ ได้ดอกไม้เพิ่มจากน้องรหัสอีกสิบดอก ขอบคุณน้า

หลังจากถ่ายรูปจนพอใจแล้วก็ได้เวลาขึ้นไปเข้าพิธีจริงๆ ข้างบนสักที ตามหายไปก่อนแล้วส่วนเรากับน้ำฟ้าแล้วก็อิซาเบลขึ้นไปทีหลัง เมื่อไปก็หาที่นั่งกันเรียบร้อยและก็ได้ค้นพบว่านังตามได้เกียรติบัตรนักเรียนคุณธรรม จริยธรรมดีเด่นประจำห้องเราในปีนี้...

แหม้!!!!!!

จ้ะ แม่คนคุณธรรมเป็นเลิศ!

นอกจากตามแล้วก็มีเฟิร์สกับหยกที่ได้ (ของห้องเราอ่ะนะ)

พอเข้าช่วงพิธีเปิด ท่านประธานพูดก็เริ่มออกอาการเซ็ง น้ำฟ้านี่สุดๆ ละ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ เกือบชั่วโมงที่ท่านประธานพูดจนลิงหลับ ในที่สุดก็เริ่มกิจกรรมกันสักที ห้อง 12 เป็นห้องแรกที่ขึ้นแสดงร้องเพลงประสานเสียง ซึ้งเวอร์ๆ ห้องอื่นๆ ก็ทำกันซึ้งเหมือนกัน

แล้ว....

ห้องกูล่ะ??

ห้องเราได้แสดงเป็นอันดับท้ายๆ การแสดงของเรานั้นแปลกกว่าชาวบ้านคือแสดงละคร ซึ่งเรื่องที่พวกเราเลือกก็คือ สโนวไวท์ เวอร์ชั่นเกรียนฝุดๆ เรารับหน้าที่เป็นคนพากย์

คือเกรียนสุดละ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงตอบรับดีเลยทีเดียว เพื่อนๆ ห้องอื่นขำกันสนุกกันเราก็ดีใจ

ที่จริงเราทำพลาดด้วยล่ะ ขอโทษนะทุกคนนนนนนน TT^TT ขอโทษนะอี้เฟย

ผ่านไปแล้วก็เข้าช่วงกินข้าว ทุกคนในห้องนั่งล้อมวงกัน มีการแจกไก่ต้มของวิ (ใช่แมะ?) พวกเราก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อยพลางดูวิดีโอห้องไปพลาง

ตื่นเต้นมากครับ

คือไม่มีใครดูมาก่อนไง ไอ้เราก็ใจตุ๊มๆ ต๋อมๆ ว่าอิคุณแบงค์มันจะเผาพวกตรูยังไงบ้าง =__=;;

วิดีโอห้องเราคือดีงามมากอ่ะ แหวกแนวไม่เหมือนชาวบ้าน คือห้องเรามันมีโมเมนท์เกรียนๆ ฮาๆ เยอะไงแล้วมันแบบเป็นธรรมชาติอ่ะ มาจากอินเนอร์ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

แบงค์ นายเก่งมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


หลังจากกินข้าวเสร็จดูวิดีโอเสร็จก็เริ่มการแสดงชุดต่อไป ต่อด้วยการกราบครู ตอนนี้ร้องไห้อีกแล้ว ฮือออออออออ TT^TT

ตบท้ายด้วยการให้อาจารย์มาพูดความรู้สึก ป้าปิ่นปิดท้ายแล้วก็เสร็จ แยกย้ายกันไปหาน้องๆ ที่ยืนรอจนรากงอก คือตอนจะเสร็จก็เกือบห้าโมงแล้วอ่ะ

ตามหาน้องรหัสอยู่พักหนึ่งก็เจอ น้องรหัสเอาของขวัญมาให้ เป็นต้นกระบองเพชรเล็กๆ มีกระถางเป็นน้องหมาตาแบ๊วๆ ขอบคุณมากเลยนะฝ้าย


หลังจากนั้นก็กลับบ้านเตรียมตัวไปงานเลี้ยงของห้องกันต่อ จัดเต็มค่า!!

กลับบ้านมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แม่จับแต่งหน้าซะอลัง กรีดตาให้ประดุจข้าพเจ้าเป็นคลีโอพัตรากันเลยทีเดียว

ไปถึงก็เจอวิกับสาวิตรี พวกนางก็จัดเต็มไม่น้อย ถ่ายรูปกันไปหลายช็อต

ตามกับฟามาถึงก่อนแล้ว ตามแต่งตัวเหมือนตอนไปมีตติ้ง 48 เป๊ะๆ ส่วนฟาใส่เสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงสีเข้มๆ แมนมากเลยคร่าาาา

หลังจากนั้นทุกคนก็ทยอยกันมาเรื่อยๆ กว่าจะครบก็เกือบสองทุ่ม

ทุกคนแบบจัดเต็มมากกกกกกกกกกกกก อลังการ ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกันทุกคนเลย สวยขึ้นมากอ่ะแต่ละคน


เมื่อครบก็ได้เวลา....กิน!!!

ในโต๊ะเราจะมีเสกข์ น้ำฟ้า ตาม เรา ขลุ่ย เมฆ อิซาเบล แล้วก็เก๊ะ

กินเท่านั้นที่ครองโลก!!

พอกินกันอิ่มก็ออกลวดลายสเต็ปแดนซ์กันมันส์ วันนี้ด้า เฟมแล้วก็มุกมาร่วมแจมด้วย สนุกสนานเฮฮากันไป

คราวนี้ก็มาถึงการเฉลยบัดดี้ บัดเดอร์

ทุกคนทายผิดกันเกือบหมด ถูกลงโทษให้ออกลวดลายสเต็ปแดนซ์ เข้าทางสิเคอะ แหม่!!

พอเฉลยจริงก็ได้รู้คำตอบว่าบัดเดอร์ของเรานั้นก็คือ....


ฟา!!!


ฟา อ่ะ นะ!!!!!! =[]=!!!!!!!

แหม่ ต้มกันซะเปื่อยเลยนะคะ คือไม่คิดว่าจะเป็นฟาจริงๆ นะ ไหนนางเพิ่งบอกดิชั้นว่าตัวเองเป็นบัดเดอร์ตามง๊ายยยยยยยยยยยยยยยย

ขอบคุณมากเลยนะฟา ซื้อขนมให้ตลอดเลย น่ารักที่สุด!

จบแล้วก็ได้เวลากลับ หม่อมแม่ง่วง ฟาเลยมาส่งที่บ้านแทน นั่งมอเตอร์ไซค์ตอนกลางคืนก็ได้บรรยากาศอีกแบบนะ แต่ก็น่ากลัว (ไม่) เบาๆ มีผู้ชายมาบีบแตรกวนตรีนใส่ด้วย =__=;;

อันตรายฟร่ะ

และแล้วก็ถึงบ้านอย่างปลอดภัย ฟาก็แวนซ์กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ

วันนี้สนุกมากจริงๆ

ขอบคุณมากๆ เลยนะทุกคน!!!

ราตรีสวัสดิ์! ^^






วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

Oh la la , สอบ TOEIC ครั้งที่3, มีที่เรียนแล้ว

เฮลโหล่วววววววววววว

นี่ก็ผ่านมากว่าสองเดือนแล้วหลังจากที่อัพบล็อคล่าสุด ข้ามปีกันเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆๆ

สองเดือนที่หายไปมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็น...

1. คะแนนโทอิคที่ไปสอบมารอบแรกไม่ผ่าน 700 ได้ 690 ขาดไป 10 คะแนน TT[]TT
2. ไปสอบข้อเขียนที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น คณะบริหารธุรกิจ > ผ่าน
3. ไปสอบโทอิคครั้งใหม่ที่กรุงเทพ คะแนนลดเหลือ 620 TT[]TT
4. ปีใหม่หฤโหด ไปรับจ็อบร้องเพลงฝรั่งที่โรงแรม ได้เงินมาพันสอง ฮ่าๆๆ
5. วันเดียวกันนั้นเอง ที่ยูโกะซังที่รักประกาศจบการศึกษา 

โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ อยากจิครายร้องไห้เป็นสายเลือด ก่อนหน้านี้ดราม่าหนักเอาการ ตอนนี้เริ่มทำใจได้แล้ว ซิงเกิ้ลล่าสุดที่ยูโกะซังเป็นเซนเตอร์จะต้องอยู่ในมือข้า!

6. ไปสอบโทอิครอบที่สาม (มันยังไม่เข็ด -*-) ผลปรากฎว่าคะแนนครั้งนี้ได้ >> 720 !! 
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ผ่านแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย ในที่สุด!! ในที่สุด!!!! *กอดใบคะแนน*

7. ไปสอบสัมภาษณ์สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น คณะบริหารธุรกิจ > ผ่าน! ได้ทุนด้วยเว้ยเฮ้ย!!
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด (รอบสอง) มีที่เรียนละเว้ย!!! วะฮะฮ่าาาา เพิ่งประกาศผลสดๆ ร้อนๆ เมื่อวาน ดีใจจนหายเจ็บแผลร้อนในที่ปากกันเลยทีเดียว (เวอร์ =_=)

ที่จริงก็ไม่คิดว่าจะสอบติดหรอกนะ คือไปแบบไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย =_= พอร์ตก็ไม่ได้ทำ ไปตัวเปล่าขณะที่เพื่อนคนอื่นหอบแฟ้มพอร์ตเล่มหนาปึ้กไว้ข้างกาย...คิดในใจ กูคงไม่ติดแล้วล่ะ -_-;;

ตอนสัมภาษณ์กับอาจารย์ก็ชิลได้อีก ตอบไม่ได้ก็ยิ้มอย่างเดียวค่ะ สยามเมืองยิ้ม ยิ้มโลด

8. การเมืองไทยยังคงร้อนระอุ

9. ไปติว O-NET สังคมกับอาจารย์ที่โรงเรียนจ้างมา สอนดีมากกกกกกกกกก ประทับใจสุดๆ

10. หิวว่ะ (ห๊ะ?)

วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

[THTrans] KAT-TUN - TABOO

[THTrans] KAT-TUN - TABOO


長い呪文にかかるふに 眠る刹那の夜は
Nagai jumon ni kakaru furi nemuru setsuna no yoru wa
ในยามที่ฉันกำลังผล็อยหลับไปในยามราตรีกาลมืดมิด ฉันก็เผลอติดกับเวทมนต์บทนั้นเสียแล้ว

自由を手にした人魚の誘惑 深い海に堕ちていく Ah
Jiyuu wo te ni shita ningyo no yuuwaku fukai umi ni ochiteyuku Ah
สิ่งเย้ายวนใจที่ถูกโอบอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขนของตุ๊กตาตัวนั้น  อิสระเป็นสิ่งฉุดดึงฉันเอาไว้ในห้วงมหาสมุทรลึก อา



冷たい水が心狂わす 肌合わせても 安心できない
Tsumetai mizu ga kokoro kuruwasu hada awasetemo anshin dekinai
สายน้ำเย็นเฉียบทำให้หัวใจฉันแทบบ้าคลั่ง แม้นกายสองเราจะถูกเชื่อมเข้าด้วยกัน ฉันก็ไม่อาจรู้สึกผ่อนคลายได้เลย

Paranoia, Think of you 二人だけ連れ去り 光る波が吞み込む運命
PARANOYA think of you futari dake tsuresari hikaru nami ga nomikomu unmei
หวาดระแวงเหลือเกิน ยามคิดถึงเธอแล้ว โชคชะตาได้ดูดกลืนสองเราไว้ในคลื่นที่ส่องประกายระยิบระยับซึ่งแยกเราสองคนให้ห่างกัน อา



I will see through your secret 罪と罰
(I will see through your secret) Tsumi to batsu
ฉันจะมองลึกไปยังความลับของเธอทั้งหมด ทั้งเรื่องผิดบาปทั้งหลาย ทั้งบทลงโทษที่สาสม

I will see through your secret 突き破れ
(I will see through your secret) Tsukiyabure
ฉันจะมองลึกไปยังความลับของเธอทั้งหมด  ปล่อยให้ตัวเองถูกมอดไหม้และถูกทิ่มแทง

魔性の扉に この手かけた時 君の中 溺れる覚悟
Mashou no tobira ni kono te kaketa toki kimi no naka oboreru kakugo
เมื่อยามฉันได้ทาบมือลงบนประตูแห่งความสามานย์ ฉันก็ได้เห็นถึงปณิธานอันแน่วแน่ที่ล้นทะลักมาจากตัวคุณ



深く長いEcstasy 感情剥き出しのCrazy
Fukaku nagai EKUSUTASHII kanjou mukidashi no Crazy
ความปีติยินดีที่ดิ่งลงล้ำลึก ความบ้าคลั่งในการปลดปล่อยอารมณ์ให้แก่ฉัน

誘う水辺に二度と戻れない 夜の海に溶けてゆく Ah
Izanau mizube ni nido to modorenai yoru no umi ni tokete yuku Ah
เพื่อล่อลวงเธอไปให้ถึงชายฝั่งนั้น ฉันจะไม่หันย้อนกลับไปอีกแล้ว ฉันจะหลอมละลายท่ามกลางมหาสมุทรยามค่ำคืน อา



気づけば二人取り残された ひとつになって 泳ぐしかなかった
Kizukeba futari tori no kosareta hitotsu ni natte oyogu shika nakatta
ก่อนที่สองเราจะสังเกตเห็น เราก็มาไกลเกินถอยกลับเสียแล้ว เราทำอะไรไม่ได้นอกจากว่ายน้ำไปเท่านั้น เป็นหนึ่งเดียวกัน

Can't stop lovin' you 十字架を揭げて ずっと君を守り抜く Ah
Can't stop lovin' you juujika wo kakagete zutto kimi wo mamorinuku Ah
ไม่อาจหยุดรักเธอได้เลย ก้าวผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคขวากนามเหล่านี้ไปด้วยกัน ฉันจะปกป้องเธอเอง อา



I will see through your secret 黒い蜜
(I will see through your secret) Kuroi mitsu
ฉันจะมองลึกไปยังความลับของเธอทั้งหมด หยาดน้ำผึ้งสีรัตติกาล

I will see through your secret 立ち上がれ
(I will see through your secret) Tachiagare
ฉันจะมองลึกไปยังความลับของเธอทั้งหมด ลุกขึ้นมาสิ

永遠の鎖に 二人繋がれて 君のためだけに 叫べば
Eien no kusari ni futari tsunagarete kimi no tame dake ni sakebeba
แม้นสองเราจะถูกผูกมัดไว้ด้วยกันด้วยโซ่ตรวนไม่สิ้นสุด ฉันจะกู่ร้องเพียงเพื่อประโยชน์ของเธอเพียงเท่านั้น



I will see through your secret 罪と罰
(I will see through your secret) Tsumi to batsu
ฉันจะมองลึกไปยังความลับของเธอทั้งหมด ทั้งเรื่องผิดบาปทั้งหลาย ทั้งบทลงโทษที่สาสม

I will see through your secret 突き破れ
(I will see through your secret) Tsukiyabure
ฉันจะมองลึกไปยังความลับของเธอทั้งหมด  ปล่อยให้ตัวเองถูกมอดไหม้และถูกทิ่มแทง
運命の扉を この手で開けた時 海の果て 光を掴め
Unmei no tobira wo kono te de aketa toki umi no hate hikari wo tsukame
เมื่อฉันได้เปิดประตูแห่งโชคชะตาด้วยมือคู่นี้ ฉันก็คว้าเอาแสงสว่างไว้จากใต้ลึกสุดของห้วงมหาสมุทร

วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ไปสอบ TOEIC

วันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มแต่เช้าแต่เราก็ต้องตื่นทั้งที่บรรยากาศนั้นโคตรจะน่านอนเพราะเป็นวันสอบ TOEIC ที่ตั้งใจอ่านอย่างมุ่งมั่นที่สุดเท่าที่เคยทำมา

วันนี้นอกจากจะมีท่านแม่สุดที่รักเป็นผู้ร่วมทางแล้ว ก็มีนันนันที่ไปสอบกับเราด้วย

อย่างที่บอกว่าเราสองคนมีเป้าหมายเดียวกัน...

ระหว่างทางก็เมาท์มอยเรื่องนู้นเรื่องนี้ เรื่อง EXO บ้าง เรื่องเพื่อนในห้องบ้าง 555+


แปะเพื่อนาง ฮ่าๆๆๆ


ก่อนออกเดินทางพวกเราสองคนก็สวดมนต์กันในห้องพระที่บ้านของเรา คำอธิษฐานก็คงเหมือนๆ กันคือ ขอให้สอบได้ในคะแนนที่คาดหวังไว้


ไปถึงที่มอ.ภูเก็ตประมาณ 11 โมงกว่า ระหว่างรอก็เอาหนังสือมาทำข้อสอบและทบทวน ได้เจอเพื่อนจากห้องเดียวกันด้วย คือ อ๋องแอ๋ง

บอกแล้วว่า เอาจริง!!! ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

นี่เป็นสนามสอบแรกที่เจอตั้งแต่ขึ้นม.6 มาเลยนะเนี่ย! (เพื่อนเขาสอบติดกันไปหลายคนแล้ว -*-)

รู้สึกตัวเองแปลกแยกยังไงบอกไม่ถูก เพราะคนอื่นที่มาสอบนั้นมีแต่นักศึกษาและผู้ใหญ่วัยทำงานทั้งนั้น มีนักเรียนม.ปลายอยู่ไม่กี่คน

พอใกล้ถึงเวลาเข้าห้องสอบ เรากับนันนันก็เตรียมพร้อม ขณะที่คนอื่นเขาเมาท์มอยกัน เราก็...

นั่งสมาธิค่ะ!!

ได้ผลนะขอบอก จากตอนแรกที่เรากับนันนันมึนหัวเพราะเมารถ (มั้ง) ก็หาย แต่พอลืมตาเท่านั้นแหละอาการก็กำเริบ 555+

ตื่นเต้นมากนี่พูดเลย หัวใจเต้นแรงมาก ไม่มั่นใจเลยสักนิด รู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อม ในหัวขวโพลน ไม่มีอะไรจะไปสอบ

แต่เอาวะ อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด 

ในที่สุดก็ได้เวลาเข้าห้องสอบ เลทมา 30 นาที เพราะนักศึกษามอ.มาลงทะเบียนช้าซึ่งเป็นอะไรที่น่าโมโหมาก คราวหลังจะไม่ลงสมัครพร้อมกับนักศึกษามอ.แล้ว เสียเวลาไปมากอ่ะ จริงๆ -*-

พอเข้าห้องสอบแล้วเราก็ไม่มีสิทธิ์ออกไปข้างนอกได้อีกจนกว่าจะหมดเวลาสอบ คาดว่าบางคนอาจจะประสบปัญหาแบบนี้เช่นเดียวกัน...

1.ห้องหนาวมาก

และ 2. ปวดปัสสาวะ =_____________=;;;;;;

นรกแตกมากค่ะทุกท่าน ตั้งแต่พาร์ทแรกยันพาร์ทสุดท้าย ต้องอั้นกันสุดฤทธิ์สุดเดช ไม่รู้ทนมาได้ยังไงนะตอนนั้น แถมตอนทำพาร์ท listening ฝนก็เทลงมาห่าใหญ่จนกระทบหลังคาดังมากแข่งกับเสียงเทปที่เปิด...

จ้ะ -_____-////

ข้อสอบพาร์ทฟังถือว่ายังโอเคสำหรับเรา แต่ประเด็นคือไอ้ที่คิดว่าทำถูกเนี่ย จากประสบการณ์การทำแบบฝึกหัด ผลสรุปคือ ข้าพตรูผิดหมดค่ะ เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจะไม่หวังอะไรมาก 5555+

ส่วนพาร์ทอ่านก็ปล่อยให้เป็นตามมีตามเกิด ทำเท่าที่ทำได้ ก็ยังทำทันเวลาอยู่ แต่ประเด็นเหมือนกับพาร์ทฟัง คือ...จะถูกไหม?


700 คะแนนที่หวังไว้อาจปลิวหายไปกับสายฝนที่ชุ่มช่ำ หรือไม่ก็เกิดปาฏิหารย์ที่ล่องลอยมากับสายลมที่พัดฉิวส่งเสียงหวีดหวิวดังมากระทบใบหู...

เพ้อเป็นนิยายเลยตรู 

เอาเถอะ ผลคะแนนจะออกมาเป็นยังไงเราก็จะยอมรับให้ได้ เพราะเราทำเต็มที่แล้ว...

(ไม่เกี่ยว แต่อยากลง)

พอสอบเสร็จก็วุ่นวายกับการตามหาตัวท่านแม่สุดที่รักเล็กน้อย จากนั้นเราก็ตรงดิ่งกลับบ้านกัน

เป็นวันที่เหนื่อยจริงๆ 555555+

กลับมาถึงก็เต็มที่จ้ะ กลับมาติ่งเต็มรูปแบบหลังจากหายหัวไปอ่านหนังสือหลายวัน 5555+ ดูคลิปฮาๆ ของ EXO บ้างไรบ้าง แฟนคลับที่เทพจริงๆ เลยให้ตายเถอะ กร๊ากกกกกกกกกกก


ส่วนคะแนนโทอิคน่าจะมาถึงประมาณวันพฤหัส ก็ลุ้นกันต่อไป~~~