วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

[APU] เหยียบย่างสู่รั้ว APU ไม่มีหยุดพัก

เนื่องจากหายหัวไม่ได้อัพบล็อคมาเสียนาน เอนทรี่ต่อไปนี้การเป็นการเล่าเรื่อวราวย้อนหลังเท่าที่หัวสมองน้อยๆ ของข้าพเจ้าจะนึกได้ ส่วนหนึ่งเป็นสิ่งที่จดไว้ในไดอารี่ ส่วนนึงมาจากการเค้นจากสมอง เบลอบ้างมั่วบ้างไม่ว่ากันนะครับ




หลังจากฟินกับคอนเสิร์ตไปแล้วก็ถึงเวลาเตรียมตัวไปญี่ปุ่นกับเขาสักที =O=

ในที่สุดวันที่เราเดินทางไป APU ก็มาถึง!!

ซึ่งเราก็ตื่นสายเช่นเคย น้านุชกับน้าหมีมาหาช่วงเที่ยง เอาของมาฝาก ทั้งน้ำพริกแห้ง ขนม มะม่วงกวน ทุเรียนทอด บลาๆๆ

จะขนไปหมดมั้ยนั่น OTZ

ด้วยความสามารถในการยัดแบบขั้นเทพของน้าเราทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

ไปช็อปกันที่เซนทรัลแจ้งวัฒนะ เสร็จแล้วเราก็กลับมาอาบน้ำเตรียมเดินทางไปสนามบิน แวะไปรับพี่มายด์กับพ่อที่ดอนเมือง

พวกเรามาถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลาหกโมงเย็นนิดๆ ซึ่งมาก่อนเวลานัดนานมาก ฮ่าๆๆๆ เค้านัดตั้งสามทุ่มแน่ะ พวกเราไปกินมือเย็นกันที่ S&P ของเราสั่งข้าวหน้าไก่ S&P มา


ไม่อร่อยเลยให้ตายเถอะ =___=


กินเสร็จก็มานั่งแกร่วกันอยู่ สักพักวิกับแพรก็มาหาพร้อมกับของขวัญ ปริ่มมากกกกก ของวิเป็นกระเป๋าสะพาย ของแพรเป็นผ้าพันคอ ที่จริงสองคนนี้บอกให้แกะตอนมาถึงญี่ปุ่นแล้วแต่กล่องของขวัญใหญ่มากทำให้ขนขึ้นเครื่องลำบากก็เลยแกะซะเลยก่อนขึ้นเครื่อง ซอรี่น้า แต่ชอบของขวัญมากกกกกกกกกกก


ส่วนน้องแทมมาหาตอนใกล้จะเข้าเกทแล้ว พวกเราสองคนดูคลิปคอนเสิร์ตexoกันก่อนไป ตลกมาก ติ่งยันวินาทีสุดท้ายจริงๆ พวกพ่อกับแม่ พี่มายด์และน้านุชน้าหมีกลับกันไปแล้ว น้องแทมจึงเป็นคนส่งเราเข้าเกทไปขึ้นเครื่อง


และแล้วช่วงเวลาที่ท้าทายก็มาถึงนั่นคือ....การที่ต้องทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ทั้งหมด!ตอนนี้เราจำชื่อเพื่อนได้เกือบหมดแล้ว (หรา?) มี EXO-L อยู่ด้วยแหละ คือไอซ์ เป็นเมนน้องแบค ภัทรเมนชาน เม้าท์กันมันส์ฝุดๆ ฮ่าๆๆๆ

เวลาเที่ยงคืนครึ่งก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องบิน เราโทรหาแจมแต่แจมไม่ได้รับ แบตก็ใกล้หมดจึงปิดเครื่องไป (ก็ต้องปิดอยู่แล้วป่ะวะ)

บนเครื่องเรานั่งข้างภูมิ (เขียนงี้ป่ะวะ) ภูมิเป็นคนเงียบๆ โลกส่วนตัวค่อนข้างสูง แต่เราคิดว่าถ้าได้คุยในเรื่องที่เขาสนใจเราสามารถคุยกันได้ยาวเลยล่ะ และเป็นคนมีน้ำใจด้วย

นั่งหิวกันสักแปบแอร์ก็เอาแซนวิชกับน้ำมาเสิร์ฟ ก็อร่อยดี หลังจากนั้นเราก็เปิดฟังเพลงเจ๊บริทย์นี่บนเครื่องแล้วก็หลับไป

ตื่นมาอีกทีก็ใกล้ถึงแล้ว แอร์เสิร์ฟอาหารเช้า เป็นเซ็ตออมเลต ไม่ค่อยถูกใจเพราะมันเลี่ยนๆ

และแล้ว เครื่องบินก็แลนดิ้งสู่ท่าอากาศยานฟุกุโอกะ เย้!!

เราไปถึงกันในช่วงเช้า วุ่นวายกับด่านตม.และเอากระเป๋าเดินทางนิดหน่อย ในทริปนี้มีคนซวยเนื่องจากกระเป๋าเดินทางโผล่ไปสวิซนั่นก็คือมิว ก็ลุ้นกันต่อไปว่าจะได้กระเป๋าวันไหน

หลังจากลำเลียงกระเป๋าขึ้นรถขนส่ง (?) กันหมดแล้ว พวกเราทั้งสามสิบชีวิต (มั้ง) ก็พากันไปขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางจากจังหวัดฟุกุโอกะเข้าสู่เมืองเบ็บปุต่อ ใช้เวลาประมาณสองชม.ซึ่งระหว่างนั้นข้าพเจ้าก็หลับเป็นตายเลยเช่นกัน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เมื่อมาถึง รุ่นพี่ก็ให้เอากระเป๋าไปเก็บก่อนจะมานั่งจุ้มปุ๊กในห้องๆ หนึ่งของหอที่สอง เป็นตึกกลาง สักพักก็มีสมาชิก HAO มาต้อนรับ แนะนำตัวกันไปเล็กน้อยก็มาถึงช่วงเวลาที่ระทึกที่สุด นั่นก็คือ....การประกาศเลขห้องตัวเองนั่นเอง!!

อย่างที่รู้กัน (ใครรู้กับแก) ตอนยื่นเอกสารขอ COE จะมีเอกสารของ AP House ให้เลือกว่าจะอยู่ห้องเดี่ยวหรือห้องแชร์ ติ๊กไรก็ติ๊กไปเถอะ สุดท้ายเค้าก็สุ่มให้ บางคนติ๊กห้องเดี่ยวได้ห้องแชร์ บางคนติ๊กห้องแชร์ได้ห้องเดี่ยว....=__=

เราเลือกห้องเดี่ยวไปด้วยเหตุผลประการเดียว...

มันมีห้องส้วม!!

จะอธิบายความแตกต่างระหว่างห้องเดี่ยวกับห้องรวมให้

เริ่มจาก 'ห้องเดี่ยว' ก่อนละกัน

ห้องเดี่ยวมีความหมายตรงตัวคือห้องที่อยู่คนเดียว ปลีกวิเวก....ผิดส์ เอาเป็นว่าเข้าใจใช่มะ?

ข้อดี : ได้อยู่คนเดียว เป็นส่วนตัว มีห้องส้วม
ข้อเสีย : แคบ (แต่ก็ไม่ได้แคบอะไรขนาดนั้นนะ)

คร่าวๆ ประมาณนี้ นี่รูปตอนย้ายมาใหม่ อย่าให้เห็นสภาพตอนนี้นะ ฮ่าๆๆๆ


ส่วน 'ห้องแชร์' เราจะได้แชร์ห้องกับเพื่อนคนญี่ปุ่น 

ข้อดี : ได้เพื่อนคนญี่ปุ่น ห้องกว้าง 
ข้อเสีย : ไม่มีห้องส้วม ต้องไปใช้ส่วนกลาง

ก็แล้วแต่สไตล์ชอบอ่ะนะ ข้าพเจ้าเองนั้นเลือกห้องเดี่ยวไป 

ผลที่ได้คือ...ได้ห้องเดี่ยวจ้า!!! สมใจค่ะ คือลุ้นมาก เค้าบอกว่าคนที่ได้ห้องเดี่ยวจะได้ทิชชู่(ไว้ไปใช้ในห้องส้วม) คนที่ได้ห้องแชร์จะไม่ได้...

ไม่เคยอยากได้ทิชชู่ขนาดนี้มาก่อนในชีวิต....

และข้าพเจ้าก็ได้ทิชชู่มาครอบครอง วะฮะฮ่า!!!

เอิ่ม...จบเรื่องทิชชู่เถอะ

เอาเป็นว่า หลังจากทุกคนได้กุญแจห้องตัวเองมาแล้วนั้น ก็แยกย้ายกลับห้องตัวเองกันไปตามหอตามตึกที่ตัวเองได้ ของเราเป็นตึก L ตอนแรก RA จะพาเดินดูหอคร่าวๆ ก่อน สอนวิธีใช้เครื่องซักผ้า เปิดน้ำอุ่นบลาๆๆ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปห้องตัวเอง ห้องของข้าพเจ้าอยู่ชั้น 5 ตึก L เป็นชั้นหญิงล้วน และก็ค้นพบว่าเพื่อนที่มารอบ Fall ด้วยกันอยู่ชั้นนี้เยอะพอดูเลย 

ก็มี เป๋าเป่า ไอซ์ (เมนน้องแบค) นัท มิจิโกะ (ลูกครึ่งไต้หวันผมสีชมพู ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นสีคาราเมล) และข้าพเจ้า 

เป็นเดอะแกงค์ห้าสาวเลยจ้า 

ห้องของเราอยู่ติดกับนัท ช่วงแรกๆ เลยอยู่ด้วยกันบ่อย

สำรวจห้องสักพักก็ต้องไปสำรวจมหาลัยต่อ!!

เหนื่อยขั้นสุด คือน้ำยังไม่อาบ ยังไม่ทำอะไรทั้งนั้น แต่ก็นะ ใครพาไปไหนก็ไปจ้ะ เราจะสู้!

แวะกินมื้อเที่ยงกันที่โรงอาหารของมหาลัย สั่งไก่ชุบแป้งทอดมา อร่อยดี

มื้อแรก หมดไป 361 เยน!




ส่อแววจนแต่วันแรก...

ก่อนจากจะขอฝากบางอย่างให้น้องๆ ที่จะมาในรอบถัดไป ว่าด้วยเรื่องของที่ควรจะขนติดกระเป๋ามาด้วย

1. ปลั๊กพ่วงของไทย เอาแบบที่เสียบรูกลมๆ ได้ด้วยอ่ะ ปลั๊กพ่วงญี่ปุ่นมีแต่รูแบน ใช้กับเต้าเสียบบางอันของเครื่องใช้ไฟฟ้าไทยไม่ได้ อาทิเช่น ที่ชาร์ตโนตบุ๊คของข้าพเจ้าเป็นต้น

2. มาม่า + โลโบ้ อยู่สักพักคุณจะคิดถึงรสชาติของอาหารไทย พกๆ มาหน่อยก็ดี

3. ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนที่ติดรสชาติแบบไทยมาก จงเอาน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว บลาๆๆ มาด้วย รสชาติซอสปรุงรสของที่นี่ไม่เหมือนไทย โดยเฉพาะพริกป่น น้ำมะนาวและน้ำผึ้ง พริกป่นญี่ปุ่นหาความเผ็ดไม่เจอ รสชาติน้ำมะนาวไม่ถูกปาก และน้ำผึ้งที่นี่ไม่อร่อย (คหสต.)

4. Router มนุษย์ติดอินเทอร์เน็ตอย่างเราจะขาดไปได้อย่างไรกัน

5. ยังไม่รู้ ตอนนี้คิดออกแค่นี้ คิดออกเพิ่มจะมาอิดิท


วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

EXO From EXO Planet :: The lost planet in BKK คอนครั้งนี้ ชั่วชีวีจะไม่ลืม

คำเตือน!

เอนทรี่นี้ยาว สาระที่แท้จริงอยู่สิบบรรทัดสุดท้าย



ในที่สุดก็ได้ฤกษ์มาอัพบล็อคกับเขาสักทีหลังจากหายหัวไปนาน

วันนี้จะเริ่มเล่าเรื่องตั้งแต่เมื่อวาน.... ไม่สิ จะเล่าตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเลยก็แล้วกัน

คืองี้ อย่างที่รู้กันว่า EXO มาจัดคอนเสิร์ตที่ไทยแลนด์แดนสวรรค์ของหมู่เฮา ซึ่งแน่นอนว่าข้าพเจ้าที่ตามวงนี้มาตั้งแต่เดบิวต์ใหม่ๆ ย่อมไม่พลาดคอนเสิร์ตในครั้งนี้เป็นแน่!

และในที่สุด อินี่ก็บากบั่นไปจนได้ =___=

ประเด็นคือแบบ เห็นในกรุ๊ปไลน์ของสมาชิกเดอะแก้งค์ APU คือทุกคนกำลังเตรียมพร้อมกับการมาญี่ปุ่นแล้วอินี่ลัลล้าไปคอนอยู่คือร่ะ?

ช่างเถอะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

เออนั่นแหละ ในที่สุดอินี่ก็ไปคอน วันเสาร์โซน SG แถว C วันอาทิตย์โซน H แถว S

คือบั่บ วันแรกอินี่ไปแถวสามจากหน้าสุด วันที่สองอินี่ไปแถวสามจากหลังสุดกันเลยทีเดียว

โดยเราบินขึ้นมาจากกระบี่มากรุงเทพตั้งแต่วันศุกร์ ถึงกทม.ก็เที่ยง ไปถึงแยมจังก็มารับที่สนามบินดอนเมือง พวกเราพากันเดินทางไปเก็บของที่เมืองทองก่อนจะตรงไปประตูน้ำเพื่อซื้อชุดไทยสำหรับใส่มางานปฐมนิเทศน์ของ APU งมหาร้านกันอยู่นานกว่าจะได้ชุดที่ต้องการ หมดไป 1850 บาท OTZ เสร็จแล้วก็ตรงไปพารากอนเพื่อดูงานแถลงข่าวของ EXO แต่คนเยอะมากกกกกกกกก เยอะแบบ เยอะชิบหาย ลานแทบแตก เรา แยมจังและน้องแทมเลยจรลีมาดูทุกอย่างผ่านจอตรงบีทีเอสแทน

เสียงก็ไม่ได้ยิน จอภาพก็เล๊กกกกกเล็กกกกกก โคตรไม่คุ้ม สรุปแล้วพวกข้าพตรูจะไปทำไมคะ!?

อืม คิดซะว่าไปเป็นหนึ่งในเสียงกริ๊ดให้หนุ่มๆ ชื่นใจละกัน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ดูจบพวกเราสามคนก็กลับมาเมืองทอง สลบเป็นตาย คือมันเหนื่อย เหนื่อยมากกก แล้วที่ได้มันไม่คุ้มค่าเหนื่อยไง เลยเฟลตามๆ กันไป

วันต่อมา...ซึ่งเป็นวันเสาร์ พวกเรานัดแนะกันว่าจะเสนอหน้าไปอิมแพคตั้งแต่แปดโมงเช้าเพื่อต่อแถวซื้อแท่งไฟสุดท้ายพากันตื่นสายไปอีกทีก็เกือบเที่ยง

คนเยอะมากกกกกกกกกกกกกก เยอะแบบ เฮ้ย ฉันมาทำอะไร ฉันควรไปยืนอยู่ตรงไหน งง ง๊งงงงงงงงง

แล้วเราก็ไปต่อแถวเข้าคิวอยู่เป็นชั่วโมง สุดท้ายก็ต้องออกมาเพราะแยมจังไปยื่นสิทธิ์ใช้ทรูมูฟเฮททไให้ได้ซื้อแท่งไฟมาโดยไม่ต้องต่อคิว

คือแบบ....

เอิ่มมมมมมมมมมม

กูต่อมาจะเป็นชั่วโมงแล้วปร้ะ ใกล้จะถึงซุ้มขายแล้วเนี่ย ละแบบ...จ้ะ

เออ ช่างเถอะ

หลังจากนั้นพวกเราสองคนก็ตระเวนตามล่าหาของแจกที่พวกบ้านใหญ่ๆ ทำมาแจก ถามว่าทำไมมีอยู่สองคน น้องแทมหายไปไหน? รายนี้กลับห้องไปตั้งแต่ถึงหน้าอิมแพคด้วยอาการวิงเวียนคล้ายจะอาเจียน

เรากับแยมจังกลับห้องหลังจากที่เดินกันจนเหนื่อย นอนพักประมาณชม.สองชม.ก็ได้เวลาไปคอน แบบว่าโคตรตื่นเต้น เรานั่งข้างแยมจัง ส่วนน้องแทมไปนั่งอีกโซน อยากจะบอกว่ามันใกล้มากกกกกกก

ใกล้แบบนี้เลยอ่ะ
 
โฮววววววววววว
 
แต่โซนนี้เสียอย่างคือพวกหนุ่มๆ มาไม่ค่อยถึง แบบพอถึง SI ก็จะหยุดไม่ค่อยเผื่อแผ่มาโซนนี้ เป็นความเซ็งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ =__= แต่ก็เอาเหอะ สิ่งที่ได้รับรู้วันนี้คือพี่หมินน่ารักโคตรๆ ได้เมนใหม่เป็นม๊าเลย์ คือแบบ คนอะไรวะ นางฟ้าสุดๆ TwT เซฮุนก็น่าเอ็นดู เทาหล่อมากกกกกกกกกก หล่อแบบบ หล่ออ่ะ หล่อออออออออออออ พี่เฉินก็หล่อแบบกระชากตับไตไส้พุง
 
น้องแบคไม่ค่อยโผล่มาทางนี้แต่มันแน่นอนว่าต้องน่ารักมากชัวร์ ดีโอนี่คือดีงาม ไคเราขะไม่พูดถึงหน้าตาเพราะหล่อกระชากจิตอยู่แล้วแต่จะขอชมการแสดงโซโล่ของฮี คือเด็ด คือดีงาม คือมีพลัง คือเมพ ตราตรึงจริงๆ
 
ส่วนพี่ซูโฮ น้องจะไม่พูดอะไรนอกจากความขาววิ้งค์ของพี่มันช่างกระแทกตาจริงๆ เจ้าค่ะ
 
 มาถึงน้องชานยอลสุดที่รักกันบ้าง อย่างที่รู้กันว่าเราเมนชาน (ใครรู้กับมึงหรอ??) ไม่ค่อยมีโมเม้นท์กับชาน เพราะชานไม่ค่อยมาโซนนี้ ตอนวิ่งมาก็หันหลังให้อีก โธ๋ คุณเมนนนนนนนนน มาตายเอาวินาทีสุดท้ายที่ฮีใส่หมวกคุมะมาโบกมือหยอยๆ ไปมาให้เนี่ยแหละ
 
ส่วนพี่ลู่.................................หายไวๆ นะพี่
 
ส่วนข้อเสียของคอนนี้เราจะไม่พูดให้ตัวเองโดนกระทืบหรอก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 
 
มาถึงวันที่ 2 กันบ้าง
 
วันนี้เราไปนัดรับโปสการ์ดชานยอล เสร็จแล้วก็แวะไปเจอน้ำผึ้ง ได้เข็มกลัดลู่หมินเป็นที่ระลึก ขอบใจมากนะเว้ย
แบนเนอร์คู่หูสูงอายุ ฟินป่ะล่ะ แอร๊ย
 
 
ได้พัดลู่หมินมาด้วย สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไว้ว่างๆ จะถ่ายมาลงให้ดูนะ
 
 
วันนี้เราไปบัตรยอดดอย คิดไว้เล่นๆ ว่าคงไกล ไม่ฟินหรอก กะไปทำโปรเจ็คเฉยๆ สรุปแล้ว....
 
มันส์โคตรเลยค่ะพี่น้องงงงงงงงงงงงงงงงง
 
เผลอๆ สนุกกว่าวันแรกอีก บัตรยอดดอยนี่คือเห็นทุกอย่างอ่ะ ทั้งการเล่นแสงสีบนเวที การแสดงโดยรวมและฉากหลังที่เป็นแท่งไฟสีขาว
 
ทุกอย่างที่ปรากฎในกรอบสายตามันเพอร์เฟ็คมากกกกกกกกก
 
นั่นแหละก็กลับบ้านไปด้วยความฟิน น้ำตาไหลสุดคือตอนเทาถ่ายรูปพวกเรานี่แหละ ขอบคุณนะที่เห็นความสำคัญของ EXO-L ไทยขนาดนี้
 
คำพูดของพี่ซูโฮซึ้งมาก ซึ้งจริงๆ นะ ขอบคุณโปรเจ็คของทางยูเนี่ยนที่ทำให้ทุกอย่างมันออกมาสวยงามขนาดนี้
 
คอนจบก็ไปกินบูมสเต็กกับน้องแทม วันนี้แยมจังไม่ได้มาเพราะกดบัตรไม่ทันเลยกลับคอนโดไปก่อนแล้ว
 
จากนั้นน้องแทมก็กลับหอตัวเองไป ส่วนข้าพเจ้าก็กลับมาฟินที่ห้องพร้อมกับคอมเครื่องใหม่ซึ่งก็คือ Surface นั่นเอง...
 
และเจ้า surface นี่แหละที่ทำให้เกิดเรื่องปวดหัวในเวลาต่อมา...
 
อยากรู้ก็จงอ่านตอนถัดไปจ้ะ


วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557

หลากหลายฟีลละเกิน

11/09/2557

วันนี้อี้ชิงมีความสุขมาก มาถึงไทยแล้วววว EXO-L ไทยก็มีความสุขกันมาก...
แต่...
พี่หาน...ไม่ได้มา
พี่หานป่วย ไม่สามารถมาขึ้นคอนที่ไทยได้
จุกไปหมด
ร่างกายเหมือนชาไปซะดื้อๆ
สองปีกว่าที่รอคอยมา...
จะไม่ได้เจอเหรอ?
จริงๆ เหรอ???
อยากจะคิดว่านี่เป็นเรื่องตลกร้าย เป็นแค่ความฝัน เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแต่...
ไม่เลย
มันคือความจริง
ความจริงที่เราต้องยอมรับให้ได้
ไม่เป็นไรนะพี่หาน รักษาตัว พักผ่อนให้เต็มที่นะ อย่าฝืนตัวเองมากรู้มั้ยเจ้ากวาง
ไว้ค่อยเจอกันที่ญี่ปุ่นก็ได้เนอะ ^^
ส่วน EXO อีก 10 คนก็สู้ๆ นะ!! เจอกันพรุ่งนี้
เอ้อ พี่คริสแถลงข่าวหนัง Somewhere only we know ด้วย หล่อโฮกกกกกกกก หล่อมากกกก โอ๊ย ภูมิใจ สู้ๆ ในเส้นทางที่เลือกเดินนะอู๋ ชั้นก็จะสู้ไปพร้อมกับนายเหมือนกัน
อนึ่ง พรุ่งนี้เป็นวันที่เราจะขึ้นกรุงเทพก่อนจะเดินทางไปญี่ปุ่นในวันจันทร์เพื่อไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น
ใจหายเนอะ
ต้องคิดถึงบ้านมากแน่ๆ เลย ฮืออออออออออ
เอาเถอะ ยังไงก็ตัดสินใจจะไปแล้วนี่นะ
สู้โว้ย!



วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ทำหนังสือครั้งแรก กับฟิคชั่น EXO + อัพเดทชีวิตสุดเรื่อยเปื่อย


ปกสวยงามมากค่ะ แอร๊ยยยยยย ขนส่งโทรมาแบบไม่ทันตั้งตัว ตอนแรกคิดว่าจะได้วันจันทร์หน้าซะอีก


ที่น่าหงุดหงิดคือที่คั่น ท้ายแหว่ง หงุดหงิดมาก คือแจ้งไปตั้งแต่เล่มตัวอย่างแล้วว่าผิด ส่วนตัวแล้วกับโรงพิมพ์นี้ความประทับใจให้คะแนนดังนี้

คุณภาพ : 7 /10 (หักเพราะที่คั่นและการไสกาวบางเล่ม)
อันธยาศัยทีมงาน : 10/10 (พูดดี ไม่เหวี่ยงใส่ ใจเย็น)
ความใส่ใจในรายละเอียด : 5 (ส่งหนังสือขาดไป 5 เล่ม ทำที่คั่นผิด ไม่ได้ห่อพลาสติกสุญญากาศให้ เหตุผลคือเราไม่ได้แจ้งโดยที่ทีมงานไม่ได้บอกให้แจ้งด้วย =__________= รวมถึงที่คั่นที่แจ้งเรื่องผิดพลาดไปแล้วก็ยังทำมาผิด แต่ยังดีที่ทำส่งใหม่มาให้)
ความรวดเร็ว : 9.5/10 ใช้เวลาทำตัวอย่าง 1 วัน (ไม่รวมจัดส่ง) ทำเล่มจริงประมาณ 3 วัน (ไม่รวมจัดส่ง) 

คุณภาพหนังสือโดยรวมถือว่าโอเคนะถ้าตัดรายละเอียดยิบย่อยไป เนื้อกระดาษโอเค หมึกโอเค สวยเลยแหละ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าถามว่าถึงกับต้องยกนิ้วให้เป็นโรงพิมพ์นัมเบอร์วันอย่างที่หลายคนรีวิวมั้ย สำหรับเราที่ก็เพิ่งได้จับงานทำครั้งสือครั้งแรกก็ถือว่าไม่ค่ะ ครั้งหน้าจะลองหาโรงพิมพ์อื่นดู ถ้าไม่เจอที่ไหนดีกว่านี้ค่อยกลับมาใช้บริการ ฮ่าๆๆ  
  


นี่จะบอกว่าปิดเทอมระหว่างรอไป APU เวลาของข้าพเจ้าหมดไปกับฟิคเล่มนี้ค่ะ T[]T 

ขณะที่เพื่อนๆ เขาเตรียมตัวอ่านหนังสือ เรียนภาษาญี่ปุ่นกัน ตัวข้าพตรูนั้นทำอะไร? เอาเหอะ...เราจะไม่พูดถึงมัน ชีวิตวันๆ โคตรจะเรื่อยเปื่อย เหมือนหายใจทิ้ง ไม่ได้ทำอะไรเป็นประโยชน์แก่ชีวิตตัวเองเล้ยยย หนังสือหนังหาก็ไม่อ่าน นิสัยขี้เกียจแบบนี้เมื่อไหร่จะแก้ได้สักทีนะ

วันๆ หมดไปกับ EXO EXO และก็ EXO!!

จะบ้าตาย เตือนไว้เลยนะ รักชีวิตจะคิดจะบ้าไอดอลเกาหลีหรือญี่ปุ่นเชียว 

ที่จริงก็ชอบได้อ่ะแหละนะ หลายคนอาจจะมีความรับผิดชอบในชีวิตมากกว่าเรา ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

คิดดูเถอะ จะไปเรียนญี่ปุ่นอยู่ละ ในหัวยังมีแต่คอน EXO ที่จะมาจัดวันที่ 13, 14 กันยานี้เลย 

แท่งไฟยังไม่มี จะใส่เสื้อไรไปดี? เอาผ้าเชียร์ใครไปบ้าง บลาๆๆๆๆๆๆ

ในหัวมีอยู่แค่เนี่ย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

น้องๆ ที่เข้ามาอ่านบล็อคของพี่ทุกคนอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะคะ T^T

ต่อจากนี้จะเป็นการเวิ่นเว้อถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเท่าที่จำได้ ว่าชีวิตได้ทำไรไปบ้างในสามเดือนว่างๆ นี่

1. ไปเรียนภาษาเยอรมันกับแก้ว....ถามว่าเพื่ออะไร? มึงจะไปญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอ คำตอบคือ ว่างค่ะ ฮ่าๆๆ เพื่อนมาชวนไปหารค่าเรียน อินี่ก็ไปจ้ะ ชอบเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ อยู่ละ ภาษาเยอรมันก็ยากนะแต่ไม่ถึงกับยากลงไปดิ้นตายเหมือนจีน =__= เพราะมีรากศัพท์เดียวกับอังกฤษนั้นแหละ จะไปปวดหัวตรงผัน V. เพศของคำไรพวกนี้มากกว่า แก้วก็ขับรถยนต์ไปรับไปส่ง รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นง่อยเพราะขับรถไม่เป็น เรียนประมาณเดือนนึงมั้งก็จบคอร์สไป แก้วก็ต้องขึ้นกรุงเทพ เริ่มเรียนตั้งแต่ 6 มิถุนา 

2. ตามล่าหาข่าวพี่คริส อย่างที่รู้กันว่าฮีหายไป =__=;; ตอนนี้ก็เป็นอันรู้กันละว่าฮีผันตัวไปเป็นนักแสดง เดบิวต์ด้วยหนังรักด้วยนะ แอร๊ยยย แถมยังร้องเพลงประกอบหนัง Tiny Times ภาค 3 อีก เสียงเพราะมาก เสียงหล่อมาก แบบ โอ๊ย พูดไม่ออกอ่ะ ไม่คิดว่าพี่คริสจะเสียงเพราะขนาดนี้ ปริ่มมากกกกกกก น้ำตาจิไหลขอแชร์นะเคอะ TwT

หนอยยยย หล่อเชียวพ่อคุณ!

มีทั้งกระแสตอบรับที่ดีจากแฟนคลับอี้ฝาน แต่ก็มีกระแสในทางลบเหมือนกันจากคนที่ไม่พอใจที่ฝานออกจากวง อย่างที่ว่าคือมันค่อนข้างผิดจังหวะ หนึ่งอาทิตย์ก่อนไปคอนมันก็นะ...คือก็เมนชานยอลด้วยเลยเข้าใจทั้งสองฝ่าย แต่ก็พร้อมจะให้อภัยไง ความฝันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน พร้อมจะยอมรับการตัดสินใจของเขานะ เขาผิด แน่นอน ไม่ได้บอกว่าไม่ผิดนะ คริสผิดที่ก้าวไปผิดจังหวะ (สุดๆ) แต่บางทีก็ไม่เข้าใจคนที่เกลียดแล้วตามด่าตามแซะตลอดเหมือนกัน ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ

ส่วนตัวถึงฮีจะผิดแค่ไหนก็พร้อมจะให้อภัยอ่ะ ไม่รู้ดิ กับจินนี่หนักกว่าอีกยังรักมันอยู่เลย ฮ่าๆๆๆๆ

3. ลุ้นบัตรคอน EXO เตรียมกดบัตรไปตั้งแต่วันที่ 2 ได้บัตร 1200 ของวันอาทิตย์มา ที่จริงควรได้ที่นั่งดีกว่านี้ แต่ด้วยความโง่วส่วนบุคคลขอไม่ระบุ เอาเหอะ กดครั้งแรก มีครั้งหน้าฉันจะไม่พลาด!! แต่ก็ได้บัตร 6,000 โซน SG แถว C มาของวันเสาร์ ซื้อต่อมาอีกที ฮ่าๆๆๆ 

4. เรียนซอ อย่าพูดว่าเรียนเลย ไปแค่ 2 ครั้ง หนูขอโทษค่ะอาจารย์รวยริน

5. อาจารย์ที่รักมากที่สุดท่านหนึ่งเสีย อาจารย์วิจารณ์....ร้องไห้อยู่หลายวัน ช็อคมาก ช็อคจริงๆ แต่ก็ได้ไปกราบศพท่าน ขอให้อาจารย์ไปสู่สุขคตินะคะ

6. พัฒนาความสัมพันธ์กับน้องหมีอ๊อฟไปอีกขั้น อะแฮ่ม อย่าได้คิดอะไรลึกซึ้ง ฉันยังชอบผู้ชาย แต่ก็ชอบผู้หญิงน่ารักๆ ไง แค่อยากเป็นเพื่อนอยากอยู่ใกล้ๆ แต่นี่หยอดน้องอ๊อฟจนเค้าเกือบเข้าใจผิดละ กร๊ากกกกกกก

7. น้องแทมมีแฟน....จ้ะ ตามสบาย ฮ่าๆๆๆๆ (ใส่มาทำไมฟะข้อนี้) วันจันทร์ที่แล้วช่วงวันแม่ไปดูหนังเรื่อง Into the storm กับน้องแทมด้วย ความฮามันอยู่ตรงที่ พอไปกินข้าวที่ศศิกันเรียบร้อยแล้วใช่มะ ก็นั่งรถแดงไปต่อ เราก็ขึ้นตามน้องแทมไปแต่ก็เอะใจถามน้องแทมว่า

เรา : ได้ถามคนขับรถยังว่าไปโลตัสป่ะ
แทม : ก็เนี่ยป้ายเขียนอยู่ว่าไปโลตัส

โอเค เชื่อก็ได้ และวินาทีระทึกมันอยู่ที่ รถเสือกเลี้ยวไปทางรร.อำมาตย์เว้ย!!

เรากับน้องแทมถึงกับชะงักค้าง บทสนทนาขาดหายไปดื้อๆ มองหน้ากันส่งสายตาให้กันว่า...ชิบหายละ!!

แต่เรื่องก็จบลงด้วยดีด้วยการที่คนขับส่งให้พวกเราไปขึ้นรถอีกคัน จากนั้นพวกเราก็ไปจองตั๋วหนัง เหลือเวลาอีกเป็นชั่วโมงก็เดินเล่น นั่งแกร่วกันไปตามประสา

หนังสนุกมากกกกกกกก มันส์สุดๆ ไปเลย!

8. ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเกิดเรื่องขึ้นมากมาย ก็ปัญหาครอบครัวนั่นแหละนะ มีเรื่องให้ต้องเสียน้ำตา ถึงกับต้องวอ.ฉุกเฉิน (?) เรียกพี่มายด์กลับบ้านเลยทีเดียว แต่ก็ผ่านมาได้อ่ะนะ ชีวิตต้องสู้

9. ไปนอนบ้านย่ามาสองวัน อยู่ที่นั่นก็ดีเหมือนกัน ห่างไกลเทคโนโลยี ได้สัมผัสธรรมชาติ

10. ซื้อโฟโตบุ๊คชานยอลของบ้าน Esprit กับของพี่คริสบ้าน lovey dobby มา ส่วนตัวชอบของชานยอลมากกว่า (มาก) เลือกรูปดี ดีวีดีก็ทำดี ส่วนของพี่คริส รูปก็โอเคนะ แต่ชัดสู้อีกบ้านไม่ได้ คุณภาพกระดาษก็สู้ไม่ได้ เลือกรูปไม่ค่อยโอ แบบรูปสวยๆ ก็มีแต่รู้สึกว่ารูปของบ้านนี้มันมีสวยกว่านี้อ่ะ ทำไมไม่เอามาใส่ =___=

11. โดนพี่ลู่ขโมยหัวใจไปจากคริสยอลรอบที่ล้าน โอ๊ย อิมนุษย์เหนือเมน!!

12. ได้รู้จักกับคนญี่ปุ่นคนหนึ่ง เค้าชื่อยูกะ เป็นแฟนคลับ EXO เหมือนกัน รู้จักโดยบังเอิญ เห็นเค้าประกาศตามหาบัตรคอนในไทยในทวิตเลยไปฟอลไว้และเข้าไปคุยไปถาม เค้าเรียกเราว่าเมย์จัง เราเลยเรียกเค้าว่ายูกะจังด้วย เค้าก็ไม่ว่าไร เราก็นึกว่าเค้าจะอายุพอๆ กันไรงี้ 

สรุป...เค้าอายุ 30 กว่าแล้วจ้า TOT

ชิบหายจ้ะ อินี่ก็ยูกะจังไปอย่างมั่นใจ OTZ ตอนนี้เปลี่ยนมาเรียกยูกะซังแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ

13. มีแพลนแต่งฟิคย้อนยุคกับพี่ทราย จะรอดมั้ยเนี่ย (หมายถึงตัวเอง พี่ทรายท่านเทพอยู่ละ) โฮวววว

14. ไปทะเลกับแก้วเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ไปตากลม กินพิซซ่ากันที่ร้านหน้าหาด ชิลดี

15. EXO ออกโฟโตบุ๊คใหม่...ตัดพี่คริสออกหมดเลย เจ็บแท้หนา แต่ก็ซื้ออยู่ดี ใครใช้ให้ชานยอลน่ารักล่ะ ฮรืออออออออ พี่ลู่ก็ฮอตเหลือเกิน พ่อมนุษย์เหนือเมน!

16. พอเถอะ -__-



ชานยอลคนน่ารักของพี่ +O+///


เซ็กซี่อ่ะ กล้ามแขนแบบ...T^T


ขาสั้นคือนิพพาน



รูปจากโฟโต๊บุ๊ค....เทายอลคืออะร๊ายยยยยยย แล้วน้องยอลคะ ไม่ใส่ซับนะคะน้อง เอวอ่ะ ฮรือออ ไม่ไหวละ ชานยอลแอทแทค โฮกกกกกกก




แน้ พ่อคนแมน มีไรหนวดมาอีกแล้วนะตัวเธอ


รูปจากโฟโต้บุ๊ค...คือว่า...พี่ลู่ไม่ควรทำให้ข้าแตกตื่นแบบนี้นะคะ ลุคนี้ไม่ทนนะคะ หล่อไปนะคะ เซ็กซี่ไปนะคะ ขอยาดมค่ะ 





เด็ดสุดคือ...คุณหนูจุนค่ะ!! กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
พี่จุนแต่งหญิงคือไม่ทนเฟ้ย! คือก่อนหน้านี้ยอมรับเลยว่าพี่จุนเป็นเมนลำดับท้ายๆ ของวงแต่หลังจากคอน SM TOWN ที่ผ่านมา พี่ท่านได้รับภารกิจให้มาแต่งหญิงเต้นเพลง Something...

แม่เจ้า สวยอ่ะ เหมือนตุ๊กตาเลย เอาหัวใจหนูไปเลยค่ะพี่ โฮวววววววว



รูปที่ถ่ายที่เบอร์ลิน เอาฟะ SM ตัดออกจากฟตบ. ดูรูปจากที่แฟนคลับถ่ายมาก็ด้ะ ชริ!


สุดท้ายนี้...คิดถึงพี่คริส ล่าสุดปรากฎตัวที่สนามบินปักกิ่งเมื่อวันที่ 15 หล่อแบบวัวตายควายล้มมากนี่พูดเลย 



คิดถึงคริสยอล





วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ว่าด้วยเรื่องทุน APU - การเตรียมตัว การสัมภาษณ์

เอาล่ะ เนื่องจากตอนนี้ชีวิตคือว่างมาก อยู่บ้านไม่มีไรทำ รอไปเรียนเดือนกันยานู่น เลยมาทำประโยชน์อะไรกับชาวโลกเสียหน่อย

จากเอนทรี่ก่อนดูเหมือนว่าจะมีคนสงสัยเรื่องทุน APU อยู่ เราจึงจะมาอธิบายทุกอย่างไว้ในเอนทรี่นี้เลยก็แล้วกันนะจ๊ะ 



APU ย่อมาจาก Ritsumeikan Asia Pacific University เป็นมหาวิทยาลัยอินเตอร์แห่งหนึ่งในญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงเลยทีเดียว ด้วยจุดเด่นที่มหาลัยนี่มีนึกศึกษาต่างชาติกับญี่ปุ่นเป็นสัดส่วนครึ่งต่อครึ่งทำให้มหาลัยแห่งนี้กลายเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมนานาชาติไปโดยปริยาย โดยมหาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองเบ็บปุ จังหวัดโออิตะซึ่งเป็นเมืองที่โดดเด่นด้านออนเซ็นแถมค่าครองชีพไม่ค่อยสูงมาก มหาลัยนี้จึงเป็นอีกหนึ่งมหาลัยที่นักศึกษาต่างชาติให้ความสนใจมากทีเดียว

อันที่จริงแล้ว จุดเด่นของมหาลัยนี้อีกอย่างที่ดึงดูดนักเรียนม.ปลายวัยใสหัวใจเอนทรานซ์ให้เข้ามาสมัครกันก็คือ 'ทุน' 

ใช่ค่ะ...ทุน =.,=

ทางมหาลัยจะมีทุนลด 'ค่าเล่าเรียน' ตลอดระยะเวลา 4 ปี เรียกได้ว่าให้จนจบการศึกษาเลยนั่นเอง โดยจะมีทุนให้ตั้งแต่ 30% 50% 65% 80% ไปจนถึง 100% เลยค่ะ ซึ่งทุนนี้จะพิจารณาจาก

1. ผลการเรียนในระดับชั้นม.ปลาย (ไม่ต่ำกว่า 3.00)
2. คะแนนความสามารถทางภาษาอังกฤษ พวกไอเฟล ไอเอล โทอิค
3. ผลการสอบสัมภาษณ์
4. เรียงความภาษาอังกฤษ
5. Portfolio 

อันตัวข้านั้นได้ทุน 80 % มา ผิดหวังนิดหน่อย (อยากได้ 100% อ่ะ TwT) แต่ก็โอเค ดีกว่าไม่ได้ล่ะวะ ฮ่าๆ

อนึ่ง ทุนนี้เป็นแค่ทุนค่าเล่าเรียนเฉยๆ นะ ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นเช่น ค่าหอ ค่ากินค่าอยู่นี่ต้องทุน พกมก. (พ่อกูแม่กู) โอนลี่ค่ะ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไป เมื่อไปถึงโน่นเราสามารถขอยื่นทุนได้อีกค่ะ มีสปอนเซอร์คอยสนับสนุนอยู่ พวกทุนค่ากินค่าอยู่ไรงี้ แล้วแต่เงื่อนไข อันนี้เรายังไม่ได้ไป ยังไม่ขอ อธิบายได้ไม่มาก


เอาล่ะ มาว่าด้วยเรื่องมหาลัยกันต่อ มหาลัยตอนนี้มีเปิดอยู่ด้วยกัน 2 คณะคือ

1. College of International Management (APM) 
2. College of Asia Pacific Studies (APS)

รายละเอียดย่อยของคณะก็ไปหาอ่านที่เว็บของมหาลัยกันเองนะ ฮ่าๆๆๆๆ


ตอนนี้เราจะมาพูดถึงขั้นตอนการสมัคร  อย่างแรกเราต้องเตรียมเอกสารประกอบการสมัครก่อน ซึ่งมีดังนี้

1. แบบฟอร์มการสมัคร หาโหลดได้ที่ http://admissions.apu.ac.jp/apply/download_form.html ไม่ก็สมัครออนไลน์ก็ได้นะ โดยต้องสมัครเป็นสมาชิกในเว็บของมหาลัยก่อน แล้วกรอกข้อมูลไปเรื่อยๆ ตามที่เค้าให้กรอก อันนี้บอกไว้ก่อนสำหรับคนที่จะชำระเงินค่าสมัครผ่านบัตรเครดิตนะคะ ต้องสมัครทางเว็บเท่านั้น แต่ถ้าโอนเงินผ่านทางธนาคารทั่วไปก็ทำวิธีไหนก็ได้ค่ะ

2. ผลการเรียนภาษาอังกฤษฉบับจริง ถ้ายังไม่จบม.6 ก็ยื่น 5 เทอม แต่ถ้าจบแล้วก็ยื่น 6 เทอมค่ะ

3. ผลการสอบภาษาอังกฤษ มี 3 อย่างให้เลือกคือ 1. TOEIC (700 ขึ้นไป) 2. TOEFL (61 ขึ้นไป) 3. IELTS (5.5 ขึ้นไป) หรือถ้าไม่มีก็เอาแบบฟอร์ม English Proficiency Evaluation ไปให้อาจารย์สอนอังกฤษที่โรงเรียนกรอกประเมินให้เราก็ได้ค่ะ แต่แนะนำว่าให้ยื่นคะแนนดีกว่าค่ะ ส่วนที่มีคนถามว่าคะแนนไม่ถึงยื่นได้มั้ย ขอตอบว่ายื่นได้ค่ะ แต่ถ้าต้องการทุนโดยเฉพาะ 80% ขึ้นไปก็ต้องเขียน essay ให้ได้อย่างเทพ สัมภาษณ์อย่างเลิศ ซึ่งเราขอแนะนำว่าไปสอบดีกว่าค่ะ พยายามที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น เหมือนเราก็ไปสอบโทอิคมาตั้ง 3 ครั้งแน่ะ 5555+ 

4. เรียงความภาษาอังกฤษ-เขียนตามหัวข้อที่ได้มาเลยค่ะ จะมีสองTopic ใหญ่ๆ เขียนเสร็จใครไม่มั่นใจก็เอาไปให้อาจารย์ช่วยเกลาภาษาให้ก็ได้ค่ะ แต่ขอย้ำนะคะว่าต้องเขียนเอง จริงอยู่ที่กรรมการอาจจะไม่รู้ว่าเราเขียนเองจริงหรือเปล่า แต่อย่าไปจ้างเลยค่ะ ส่วนตัวคิดว่าจะตรงนี้ยังทำเองไม่ได้ ต้องไปจ้างเอา ถึงเวลาเรียนจริงก็ไม่ไหวหรอกค่ะ อ้อ ในใบสมัครจะมีอีกหน้าหนึ่งให้เขียนสำหรับคนที่ต้องการขอทุน อีกหนึ่งหัวข้อนะ ใครไม่ขอก็ข้ามไป

5. หนังสือรับรองจากทางโรงเรียนภาษาอังกฤษฉบับจริง - เอกสารรับรองว่าเรียนจบแล้วไรทำนองนี้ ถ้ายังไม่จบก็ขอเอกสารยืนยันสถานภาพนักเรียนแทน

6. สำเนาหนังสือเดินทาง

7. Recommendation Letter แนบมากับใบสมัครแล้ว ให้อาจารย์กรอก ให้ดีเป็นครูอังกฤษ

8. รูปถ่าย 2 ใบ ขนาดนิ้วครึ่ง

9. หลักฐานการชำระเงินค่าสมัคร / สลิป

เอาล่ะหลังจากที่เราส่งเอกสารเหล่านี้ไปหมดเรียบร้อยแล้ว ทางมหาลัยก็จะออกตารางสัมภาษณ์มาให้ เราก็ไปตามคิวของเราค่ะ ให้ดีควรไปก่อนสัก 20 นาที 

สำหรับการสัมภาษณ์ ควรเตรียมตัวยังไงบ้าง???

การสัมภาษณ์นั้นจะใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาทีค่ะ โดยจะมีอาจารย์สองท่านคอยสัมภาษณ์เรา อาจารย์ใจดีและเป็นกันเองค่ะ ไม่ต้องกังวลไป รีแลกซ์เข้าไว้ ตื่นเต้นได้แต่อย่าถึงขั้นประหม่า

มีคำถามอะไรบ้าง....?

เอิ่ม เท่าที่จำได้นะ

1. ไหนลองแนะนำตัวเองซิ - เราก็แนะนำไปค่ะ ชื่อแซ่อะไร มาจากที่ไหน เรียนรร.ไร อยากเข้าคณะอะไร ซึ่งนำมาสู่คำถามต่อไป.... 

2. ทำไมถึงอยากเรียนเข้าคณะนี้ล่ะ - เราบอกไปว่าอยากเรียน APS สาขา IR ค่ะ เลยตอบไปว่าอยากเป็นฑูตไรงี้ 5555+ อันนี้แล้วแต่คณะนะคะ บอกเหตุผลของเราไปเองเลยค่ะ

3. คิดว่าปัญหาระหว่างไทย-ญี่ปุ่นตอนนี้คืออะไร - อันนี้อาจารย์จะถามให้โยงกับคณะที่เราเลือกค่ะ เหมือนเราเลือก IR อาจารย์เลยถามปัญหาระหว่างประเทศ ดูว่าเราสนใจเหตุการณ์ความเป็นไปของโลกมั้ย? 555+ข้อนี้เราแถค่ะ ขอไม่เปิดเผยว่าตอบไรออกไป พูดไปพูดมาโยงเข้าการเมืองค่ะ (ช่วงนั้นมีม็อบ) เลยเข้าสู่คำถามข้อต่อไปต่อ =O=

4. ถ้าหากคุณเป็นคนเดียวที่สามารถแก้ไขปัญหาของไทยในตอนนี้ได้ คุณจะทำยังไง - โอ้วเบเบ้ ข้อนี้หินมาก มัน-หิน-มาก!!!! ไม่สามารถทำไรได้นอกจากแถต่อค่ะ (ไม่เปิดเผยเช่นเคย)

5. คุณคิดว่า ถ้าได้อยู่ APU แล้วจะทำกิจกรรมอะไรบ้าง - แน่นอนว่าต้องตอบเหมือนกันทุกคนคือ Thai Week!! 555+ แล้วก็แถมไปอีกหนึ่งกิจกรรม ข้อนี้แล้วแต่เช่นกัน อยากทำไรก็บอกเค้าไปเลยค่ะ บอกเหตุผลไปด้วยก็ดี

6. คุณจะทำอะไรในกิจกรรม Thai Week - ตอบเหมือนกันทุกคนเช่นกันคือ รำไทยค่ะ!! ถามว่ารำเป็นมั้ย ก็ไม่นะคะ ข้อนี้ตอบตามอัธยาศัย จะตอบว่าระบำไทเก๊กก็ได้ไม่ว่ากัน (ห๊ะ?)

7. ถ้าให้เลือกระหว่างเป็นผู้นำกับผู้ตามคุณจะเลือกอะไร? 


คำถามก็ทำนองนี้แหละค่ะ มีอีก แต่ไกด์ให้แค่นี้พอ กร๊ากกก (อิงก!) โดยรวมแล้วก็ถามความเห็นของเรานั่นแหละค่ะ คำถามจะเป็นไปตามคณะที่เราเลือก ไม่เหมือนกันแล้วแต่คนค่ะ ถ้าเลือกคณะอะไรไปก็เตรียมข้อมูลไปหน่อยก็ดีค่ะ เหมือนบริหารธุรกิจอาจจะถามเกี่ยวกับเศรษฐกิจไรงี้ แต่ไม่ต้องซีเรียสมากค่ะ คำถามค่อนข้างโอเพ่น ให้เราแสดงความเห็นมากกว่า เค้าดูทัศนคติของเราด้วยรวมถึงการใช้ภาษาอังกฤษว่าสามารถพูดคุยตอบโต้เขาได้รึเปล่า ของเราก็ลื่นบ้างติดขัดบ้าง แต่ก็ให้ระลึกไว้ว่าจงเป็นตัวของตัวเองค่ะ แสดงความมุ่งมั่นในการจะเข้ามหาลัยนี้ให้มากที่สุด คิดอะไรไม่ออกก็จงยิ้มสู้!! เคนะทุกคน ^O^! 



วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

[Thai Trans] A PAGE - Akanishi Jin

You and I You and I You and I
You and I You and I You and I


คุณและผม คุณและผม คุณและผม
คุณและผม คุณและผม คุณและผม

I got 2, 5 years to tell yall about

25 tears I cried and set aside for a bitch that lied
Now I sit inside can't believe that i tried
But I'd let it all go just to know
Did you really trust in me or was it just a show
Now the shows that I go get a little bit longer
And the motivation gets a little stronger

ผมใช้เวลากว่า 2,5 ปีเพื่อที่จะบอกพวกคุณเกี่ยวกับ

25 หยดน้ำตาที่ผมเสียไปและหยุดทุกอย่างเพื่อยัยจิ้งจอกจอมหลอกลวง
ตอนนี้ผมได้นั่งลง ไม่อยากเชื่อเลยว่าผมจะอ่อนล้ามากขนาดนี้
แต่ผมจะปล่อยทุกอย่างไปเพื่อที่จะลองดูหน่อยว่า
คุณเชื่อมั่นในตัวผมจริงๆ หรือว่าทุกอย่างเป็นแค่การแสดงฉากหนึ่ง
ยามนี้การแสดงต่างๆ ที่ผมไปดูมันเริ่มจะยืดเยื้อขึ้นไปอีกนิด
และการกระตุ้นก็เริ่มรุนแรงขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว 


So it's on her she dropped that ball
In the summers when i fall
Cuz you made that call
I keep moving on with my mind on the goal
Nothing could a stopped this, my cups not full


ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับคุณที่เคยทิ้งบอลลูกนั้นลง
ในฤดูร้อนที่ผมเพลี่ยงพล้ำ
เพราะสายโทรศัพท์จากคุณนั่นไง
ผมได้ก้าวต่อไปเรื่อยๆ ด้วยเป้าหมายที่ตั้งมั่นเอาไว้ในจิตใจ
ไม่มีอะไรมาหยุดผมได้ แก้วของผมยังไม่เต็มหรอกนะ

Now it shows that you didn't all know
When I had to let it go
So you hear my heart fall
Let us break it down


ตอนนี้มันก็เห็นได้ชัดแล้วว่าคุณไม่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมดเลยสักนิด
ตอนที่ผมต้องปล่อยทุกอย่างไป
เพราะงั้นคุณได้ยินเสียงหัวใจที่แตกสลายของผมแล้วใช่มั้ย
เรามาทำลายมันไปด้วยกันเถอะ


Easily you understand
Easily I had a plan
Even if you make me fall
Just know I'm gonna take a stand


ง่ายๆ คุณเข้าใจได้แน่
ง่ายๆ ผมมีแผนเอาไว้แล้ว
แม้ว่าคุณจะทำให้ผมเพลี่ยงพล้ำก็เถอะ
แค่รู้ไว้ว่าผมจะสร้างจุดยืนของผมเองขึ้นมาก็พอ


You and I You and I You and I
You and I You and I You and I


คุณและผม คุณและผม คุณและผม
คุณและผม คุณและผม คุณและผม

Pray for protection when i step on the stage
Let the lights of this life blast the pain away
And I know there was nothing
that you could ever tell me it's true
I had it all figured out and now I'm running it through
Stay moving dust starts to settle around


ภาวนาเรียกหาการปกป้องยามที่ผมได้ก้าวขึ้นไปบนเวที
ให้แสงสว่างของชีวิตทำลายความเจ็บปวดนี้ไป
และผมรู้ว่าไม่มีอะไรเลย
ที่คุณจะบอกผมได้ว่านี่คือเรื่องจริง
ผมคำนวณทุกอย่างเอาไว้แล้วและตอนนี้ผมก็กำลังวิ่งฝ่ามันไป
ปัดฝุ่นออกไปสักนิดเพื่อเริ่มตั้งรกรากกันใหม่


Gave up a little life just to gain a little ground
How'd make it this far without your love in my life
Carry me close to your heart
I know it's hard
An nothing can compare when the feeling is there
You got a little something something love-in like
you never had nothing frontin just to get up and go
I'd do it all for you
and I know you know


ยอมแพ้ในชีวิตเล็กๆ นี้ไปสักนิดเพื่อให้ได้พื้นที่เพิ่มมาอีกหน่อย
ผมจะมาไกลขนาดนั้นได้อย่างไรถ้าปราศจากความรักจากพวกคุณ
ให้ผมได้เข้าไปอยู่ใกล้ๆ หัวใจของคุณเถอะ
ผมรู้ว่ามันยาก
ความว่างเปล่าสามารถเปรียบเทียบได้เมื่อมีความรู้สึกอยู่ตรงนั้น
คุณมีบางสิ่งบางอย่างเล็กๆ บางสิ่งที่ดูคล้ายกับความรัก
คุณอาจไม่เคยมีสิ่งที่ต้องเผชิญหน้ากับมันมาก่อน ไม่เป็นไร แค่ลุกขึ้นและก้าวไป
ผมจะทำทุกอย่างเพื่อคุณ
และผมก็รู้ว่าคุณต้องทราบมันดี



The sound that lingered in my ears was made by your tears
That told me that you love me wanna make it last
But we only had what is done is bad
Now I look to the sky just to cry



เสียงจากหยาดน้ำตาของคุณที่ดังก้องอยู่ในหูผม
เสียงที่บอกว่าคุณรักผมและต้องการให้รักครั้งนี้ยืนยาวตลอดไป
แต่พวกเรามีเพียงแค่สิ่งเลวร้ายที่ได้ทำลงไปแล้วเท่านั้น
ตอนนี้ผมแหงนหน้าขึ้นมองฟ้า เพื่อจะปล่อยหยดน้ำตาเพียงเท่านั้น



So forgive and let's live this life that i missed
Let's hit this live say hello with a fist
We wished we knew now we can't stop it
You didn't make it I just can't top it
So I ask will you bless me please
Expanding my territories
North and south just hear his mouth
The hands get weak and knees give out


เพราะงั้นได้โปรดให้อภัยและให้ผมได้ดำเนินชีวิตในส่วนที่ขาดหายต่อไป
ทำลายชีวิตนี้ทิ้งไปซะ ทักทายด้วยกำปั้นซะหน่อย
เราหวังว่าเราจะตระหนักกันได้แล้วว่าเราไม่มีทางหยุดมันได้
คุณไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก เป็นผมเองที่ควบคุมมันไม่ได้
ดังนั้นผมขอให้คุณอวยพรให้ผมหน่อยได้ไหม
ขยายอณาเขตของผมไป
จากเหนือจรดใต้ขอแค่ฟังทุกอย่างจากปากของเขา
มือคู่นี้อ่อนล้า เข่าคู่นี้ทรุดลง 


You and I You and I You and I
You and I You and I You and I

คุณและผม คุณและผม คุณและผม
คุณและผม คุณและผม คุณและผม

I got 25 years to tell yall about
25 tears I cried and
set aside for a bitch that lied
Now I sit inside can't believe that i tried
But I'd let it all go just to know
Did you really trust in me or was it just a show
Now the shows that I go get a little bit longer
And the motivation gets a little stronger


ผมใช้เวลากว่า 2,5 ปีเพื่อที่จะบอกพวกคุณเกี่ยวกับ
25 หยดน้ำตาที่ผมเสียไปและหยุดทุกอย่างเพื่อยัยจิ้งจอกจอมหลอกลวง
ตอนนี้ผมได้นั่งลง ไม่อยากเชื่อเลยว่าผมจะอ่อนล้ามากขนาดนี้
แต่ผมจะปล่อยทุกอย่างไปเพื่อที่จะลองดูหน่อยว่า
คุณเชื่อมั่นในตัวผมจริงๆ หรือว่าทุกอย่างเป็นแค่การแสดงฉากหนึ่ง
ยามนี้การแสดงต่างๆ ที่ผมไปดูมันเริ่มจะยืดเยื้อขึ้นไปอีกนิด
และการกระตุ้นก็เริ่มรุนแรงขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว 


Original Trans by signal-yt1
Edit Trans by Maychanhikka


ตอนนี้เกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย อย่างที่ทุกคน (?) คงรู้กันเรื่องคริสหรืออู้อี้ฟานได้ยื่นฟ้องค่าย sm และมีเหตุการณ์น่าเศร้าตามมาตลอด 6 วันที่ผ่านมานี้

สมาชิกอันฟอลไอจีพี่คริส...
แฟนคลับหลายคนเริ่มทิ้งเขาไป...
แฟนคลับเริ่มคาดเดาและวิเคราะห์กันไปต่างๆ นาๆ ก่อนจะเริ่มแตกคอกัน แบ่งฝักแบ่งฝ่าย และเริ่มทะเลาะกันเพราะความเห็นที่แตกต่าง

ไม่ว่าใครต่างก็เจ็บปวด

ทั้งสมาชิกอีก 11 คนที่ต้องเหน็ดเหนื่อยเพราะคอนเสิร์ตที่กำลังจะถึงในอีกไม่กี่วันนี้ ทั้งพี่คริสที่ตอนนี้ไม่รู้อยู่ที่ไหนไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

รวมถึงแฟนคลับ...ที่ต้องรับรู้ทุกอย่างผ่านตัวอักษรหน้าจอคอม ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือก็ดี หรือคำพูดที่สาดเทกันไปมาจากเมนคริสและเมนคนอื่นๆ ก็ดี 

ได้อะไรเหรอ? มันได้อะไรเหรอนอกจาก 'ความเจ็บปวด'

เรารู้ทุกคนโกรธ เรารู้ทุกอย่างเสียใจ โดยเฉพาะคนที่โกรธพี่คริสที่ทิ้งทุกอย่างไว้ให้เมมเบอร์คนอื่นๆ แบกรับเอาไว้ เรารู้ว่าในเรื่องนี้พี่คริสผิดจริงที่ทำให้ทุกอย่างมันรวนและสับสนวุ่นวายมากขนาดนี้ เราเองก็คิดเหมือนกัน

แต่ขอได้ไหม

ช่วยรอเขาออกมาพูดอะไรอีกหน่อยได้ไหม ให้โอกาสเขาพูดความรู้สึกของเขา เหตุผลของเขาที่ทำไปทั้งหมด

เมื่อถึงเวลาที่เรารู้ 'ความจริง' ทุกอย่างแน่ชัด ไม่ว่าจะจาก sm ก็ดี หรือจากปากพี่คริสเองก็ดี..

ถึงเวลานั้นมันก็ยังไม่สายไม่ใช่หรือที่คุณจะตัดสินเขาจากการกระทำนี้

จะโกรธเขาก็ได้ จะเกลียดเขาก็ได้ ขอแค่ตอนนี้ ในยามที่ทุกอย่างไม่แน่นอน ในยามที่ทุกคนกำลังสับสนและเสียใจ จับมือกันไว้ให้แน่นๆ ก่อนไม่ได้หรือ? 

อนึ่ง เราเห็นข่าวพี่คริสแล้วนึกถึงเพลงนี้ของจินขึ้นมา เพลงที่เขาแต่งไว้ก่อนที่จะจาก KAT-TUN ไป เหมือนเป็นภาพสะท้อน เหมือนเป็นเดจาวู แม้ว่าเหตุการณ์จะต่างก็เถอะ แต่มันก็มีแต่ความเจ็บปวดเหมือนกัน เลยหยิบมาแปลใหม่ บางอย่างก็คงคำแปลเดิมจากที่เขาแปลไว้แล้วเพราะภาษาเค้าสวยกว่าเรา

สุดท้ายนี้ รักนายนะอู๋ฟาน รักพวกนายนะ EXO