วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เวิ่นเว้อ

วันนี้สอบไปอีกสามวิชา...

สองวิชาแรก นาฏศิลป์กับอังกฤษแกรมม่าผ่านไปได้ด้วยดี ^w^ แต่แล้วก็ต้องมาดับอนาถคาข้อสอบเนื่องจากวิชาเคมี...

ทำไมได้อ่ะ T[]T!!!!!

ไม่ไหวมานานละกับวิชานี้ เฮ้อ ปลงดีมั้ยตรู คะแนนภาษาไทยสูงมาก แต่เคมีนี่คาดว่าแม้เสี้ยวนึงก็อาจไม่ถึง

นี่ตรูมาเรียนสายวิทย์-คณิต ทำไมน่ะ =____________=?

จบเรื่องเวิ่นเว้อไปซะ เราจะเข้าเรื่องที่เวิ่นเว้อยิ่งกว่าเดิมต่อ (อ้าว)

อย่างที่่รู้กันว่าวันนี้จัมพ์ได้เดินทางมาถึงประเทศไทย มีแฟนไปต้อนรับให้เพียบ เครื่องลงตีห้าเกือบๆ ครึ่ง ...ตีห้า!!!!???? พระเจ้า แฟนคลับนี่ช่างอึดและบึกบึนนัก นี่พวกท่านไปรอกันตั้งแต่กี่โมงครับนี่? เทพอ่ะ ข้าน้อยขอคารวะ  -/\-

ประเด็นคือ ข้าพเจ้าไปได้ไปไง เลยได้แต่นั่งเจ็บๆ หน่วงๆ อยู่ในใจ ไลฟ์วันเสาร์ก็ไม่ได้ไปเพราะเมื่อต้นเดือนจองตั๋ววันที่ 5 ไปแล้ว แล้วจัมพ์ดันมาไลฟ์วันที่ 3 

จบค่ะ จบข่าว ตั๋วเลื่อนไม่ได้ นี่ตรูคลาดกับจัมพ์แค่สองวัน โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เจ็บมาก เจ็บเวอร์ โคตรจุก แต่น้ำตาไม่ไหลแฮะ (ไหลไม่ออกแล้วแหละ =_=) นั่งดราม่าอยู่กว่าสองชม. ระบายและเวินเว้อกับบัวไป รู้ก็สึกดีขึ้นนะ

แต่ก็ไม่ทั้งหมดหรอก มันเหมือนเป็นบาดแผลในใจ (อิเวอร์) สะกิดครั้งนึงก็เจ็บครั้งนึง ฮ่าๆๆๆ แทบจะปิดตัวเองไปจากเฟสเพราะมีแต่คนอัพเรื่องนี้กัน คนไม่ได้ไปอย่างข้าพเจ้าเจ็บโคตร  ตอนนี้ก็ได้แต่หาอะไรมาดามใจ ซึ่งสิ่งที่ดามใจข้าพเจ้าอยู่ ณ ตอนนี้ก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...

สาวๆ ตระกูล48 และ หนุ่มๆ EXO ฮ่าๆๆๆๆๆ

ช่างเป็นยาสมานแผลชั้นดีอะไรเช่นนี้ เมื่อวานผลออริก้อนของอัลบั้มTeppen Tottande! ของวง NMB48 ออกมาแล้ว

ที่ 1 ค่ะทุกคน ยะโฮ่ว *จุดพลุ* ยอดขาย 247,047 ด้วยกัน เยอะมากอ่ะ พอๆ กับซิงเกิลเลย สาวๆ โอซาก้าสุดยอด ! เดี๋ยวก็ต้องลุ้นกับยอดขายซิงเกิ้ลแรกของ HKT48 อีก 

ฮุๆ ป่านนี้ซายาเน่คงยิ้มหน้าบานแล้วสินะ ฮ่าๆๆ 

อัพ g+ ด้วย น่ารักโฮก                                                                            เอิ่ม ได้โปรดดูคนข้างหลังสักนิด


                                                           
ไปสอยมาแล้วด้วยเว้ยเฮ้ย ว่าแต่...เน่ซื้อ type M เหรอ? นึกว่าจะซื้อ N ซะอีก แต่ก็นะ ไทป์นี้ที่รักเค้าเด่น กร๊ากกกกกก ซายามิลกี้จงเจริญ!

ก้าวสู่ความฝันถึงขั้นหนึ่งแล้วนะ NMB48!


มาพูดถึงยาสมานแผลอีกที่นึงบ้างดีกว่า วันนี้เราขอนำเสนอ

ซิ่วหมินค่ะ!! ฮ่าๆๆๆ โอ๊ย เปาน้อยรูปนี้ไม่ไหวอ่ะ ทั้งหล่อทั้งน่ารักและมีเสน่ห์ อยากกินซาลาเปา!


และอีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือบุคคลผู้นี้...


ปาร์ค ชานยอล!

รูปนี้ไปเห็นตอนกำลังนอยด์ๆ อยู่พอดี อารมณ์ที่นอยด์ๆ อยู่หายวับไปชั่วพริบตา (โอ้ว) กลายเป็นขำก๊ากหน้าคอมแทน โอ๊ย คุณปาร์คคะ จะทำให้มีความสุขไปถึงไหน เพราะแกเป็นแบบนี้ไงถึงรักหัวปักหัวปำ กร๊ากกกกกกกกกกกก

130225 เค้าพยายามจะออกจากตึก SM แต่เค้าดันไปเจอประตูที่มันชำรุด เลยมีท่าทีอย่างที่เห็น ฮาาาาาาา

 เอ๋อเอ๊ย You make my day มาก! 






วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

[Hey!Say!JUMP] Trans-Duet 2008/11 โมริโมโตะ ริวทาโร่ กับความฝันอันยิ่งใหญ่!






เรื่องที่ผมจะพูดต่อไปนี้ผมยังไม่เคยพูดถึงที่ไหนมาก่อนเลยนะขอบอก ช่วงนี้ผมกำลังเขียนเนื้อเพลงและเรียบเรียงมันอยู่ล่ะ พอทำอย่างนี้แล้วทีนี้ผมก็จะสามารถทำ เพลงขึ้นมาได้ ผมอยากจะทำเพลงที่ดีๆ ให้ได้เยอะๆ เลยครับ ผมอยากให้คนที่ฟังเพลงของผมได้รู้สึกนึกคิดว่า ใครทำเพลงพวกนี้ขึ้นมากันนะ?’ แล้วผมก็อยากจะให้พวกเขาประหลาดใจกันแล้วถามผมว่า “โอ้ เป็นโมริโมโตะคุงเองงั้นเหรอเนี่ย!? ผมเคยคิดมาว่าคงจะดีไม่น้อยเลยถ้าหากชื่อ “โมริโมโตะ ริวทาโร่” เป็นที่รู้จักรอบด้าน นอกเหนือจากนั้นในอนาคตผมอยากจะเป็นศิลปินที่ทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง ทั้งการเขียนเนื้อเพลง การแต่งเพลง ออกแบบท่าเต้น การเป็นโปรดิวเซอร์ และออกแบบพวกเครื่องแต่งกาย ตอนนี้ผมกำลังเขียนเนื้อเพลงอย่างแข็งขันเพื่อเป็นก้าวแรกสำหรับการจะได้บรรลุถึงเป้าหมายความฝันนั้น ผมเฝ้าเขียนมันอย่างขะมักเขม้นและรวบรวมมันเข้าด้วยกันแม้กระทั่งถึงช่วงพักที่โรงเรียน ยังไงก็ตามแต่ผมก็ไม่ได้เขียนมันในระหว่างทำงานหรอกนะเพราะเมมเบอร์ทุกคนจะเข้ามาล้อเลียนผม ((หัวเราะขมขื่น)  นี่น่ะกำลังจะเป็นหนึ่งเดือนแรกของผม (ที่ทำเจ้านี่) ก่อนที่ SUMMARY จะเริ่มต้นเลยนะ (*ข้อมูลอันนี้ได้ออกมาตอนช่วงปลายสิงหา)  ผมได้ทำมาประมาณราวๆ 30 เนื้อเพลงแล้ว คุณซากุราอิ คาซึโตชิ วง Mr. Children เป็นอีกคนหนึ่งที่ผมนับถือและได้เอาคำพูดของเขาที่ว่า “สร้างสรรค์เพลงมากมายด้วยการเขียนเพลงวันละเพลง” เพื่อนำมาฝึกฝนตนเอง ผมยังคงไม่มีเทคนิคในการแต่งเพลง เลยใช้วิธีการเอาเนื้อเพลงของผมไปใช้กับทำนองเพลงโปรดผมของวง Mr. Children และ BOØWY ตอนนี้ผมกำลังฝึกฝนในการทำดนตรีอยู่ครับ ผมคิดว่ามันคงดีไม่น้อยเลยล่ะถ้าวันหนึ่งผมได้เรียนเกี่ยวกับการไล่เสียงดนตรีและทำเสียงเพลงเป็นแบบต้นฉบับเฉพาะของตัวผมเอง!


Original Trans by hisakolychee


ด้วยอารามคิดถึงน้องขึ้นมาเฉยๆ หรือเพราะอะไรก็มิอาจทราบได้ทำให้อยู่ๆ ก็อยากอ่านทรานซ์นี้ที่ตัวเองเคยแปลไว้
นานมากแล้ว เหลือเชื่อเหมือนกันที่ทรานซ์นี้เป็นหนึ่งในไม่กี่ทรานซ์ที่เหลือรอดในเครื่องคอมเรามาได้ อยากให้น้อง
กลับมานะ มาทำความฝันของน้องให้เป็นจริง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องได้เปลี่ยนความฝันไปแล้วหรือยัง (ทรานซ์นี้มัน
ก็นานมากแล้วนี่นะ) แต่ถึงยังไงพี่ก็เอาใจช่วยน้องเสมอเน่อ

วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เครื่องปรินซ์หรรษา

วันนี้มีเหตุการณ์ที่ทำให้หัวเสียไม่น้อย...

เครื่องปรินซ์...มันกวนตรีนค่ะ -___-**

บางทีอาจจะไม่ใช่ความผิดของเครื่องปรินซ์แต่เป็นที่ระบบของเครื่องคอมเองซึ่งไม่รู้จะแก้ยังไงเหมือนกัน

ปกติด้านหน้าของเครื่องที่มีที่ให้เสียบ USB 2 ที่ใช่มั้ยคะ? ปกเสียบเครื่องปรินซ์แล้วปรากฏว่ามันไม่ทำงานค่ะ...เอาแล้วไง จะได้ปรินซ์รายงานคณิตมั้ย?

เมื่อเป็นอย่างนั้นเราจึงตัดสินใจไปเสือบที่ด้านหลังแทน มันยังเหลือช่องให้เสียบประมาณสองสามช่อง ครั้งแรกชั้นเลือกเสียบตรงช่องถัดจากที่เสียบแป้นพิมพ์ไว้ ผลปรากฏว่า

ได้ผลค่ะ! เครื่องปรินซ์ทำงาน แต่...แป้นพิมพ์มันหยุดทำงานเฉยเลย! อ้าว =[]=!?

ฉันเลยตัดสินใจปิดเครื่องแล้วรีสตาร์ทใหม่ เกิดอะไรขึ้น...สตาร์ทไม่ติดค่ะพี่น้อง (ยังกับรถยนต์ =_=)

เมื่อทำยังไงก็เปิดไม่ได้เลยโทรไปหาพ่อ (ที่ตอนนี้ไปงานศพน้าของย่าที่นครกับแม่) พ่อเลยบอกให้เอาสายต่อเครื่องปรินซ์ออกก่อนแล้วค่อยเปิด เออ ได้ผลจริงว่ะ =O=

ทีนี้ฉันก็เลยเปลี่ยนช่องเสียบใหม่เป็นเสียบถัดจากช่องที่เสียบเมาส์แทน แล้วเมาส์ที่รักก็หยุดทำงาน

เฮ้ย!! เฮ้ยยยยยยยยยยยยยย!!!!!

บ้าไปแล้ว TT[]TT

สุดท้ายก็ต้องปิดเครื่องแล้วรีสตาร์ทใหม่อีก ส่วนเครื่องปรินซ์นี่ก็ปล่อยไปแล้ว ค่อยไปขอปรินซ์กับเครื่องของน้องชายกัน OTZ


อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้หงุดหงิดนั่นก็คือ...ตอนประมาณ 11 โมงครึ่ง อยู่ๆ สัญญาณอินเตอร์เน็ตก็ตัดไปซะเฉยๆ =___=;

กำลังอ่านฟิคอยู่เลยเชียว! 

ฉันเดินไปเคาะห้องนอนของพี่มายด์ คุณพี่เปิดมาด้วยท่าทางหงุดหงิด ฉันเลยถามไปว่าเน็ตยังปกติดีมั้ย เจ๊แกก็ตอบว่าปกติดีแล้วปิดประตูห้องไป...

แล้วตูล่ะ =O=????

นั่นแหละ เนื่องจากเน็ตใช้ไม่ได้เลยมาทำรายงานคณิตแทนแล้วเครื่องปรินซ์ดันใช้ไม่ได้อีก กรรมจริงๆ

แต่แล้วฉันก็ได้พบว่าจริงว่าที่เน็ตมันไม่ติดเพราะคุณพี่สาวมันดันไปกระแทกกับสายไฟของตัวปล่อยสัญญาณเน็ต!

คุณพี่ที่รักคะ ทำไมไม่เช็คตั้งแต่แรกวะคะ!!

เอาเถอะ...มันผ่านไปแล้ว T-T

วันนี้ได้อ่านฟิคคริสยอลไปอีกเรื่อง ตกหลุมรักเอ๋อยอลอีกแล้ว ผู้ชายอะไร น่ารักได้ขนาดนี้น้อ ~O~

โอ รอยยิ้มของเธอเปรียบเสมือนยาชั้นดี /////=O=/////////// ปาร์คชานยอล ไอเลิฟยูว 

วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ไปเรียนไปพิเศษชีววิทยา : การตอบสนองของพืช

วันนี้ตื่นเร็วขึ้นมาหน่อยเพราะต้องไปเรียนพิเศษวิชาชีววิทยกับอ.อุดมศิลป์ บทเรียนวันนี้ก็ว่าด้วยเรื่องการตอบสนองของพืช ซึ่งสรุปได้มาดังนี้...

การตอบสนองของพืชจะต้องมีการเคลื่อนไหว ซึ่งเกิดจากมา 2 สาเหตุ

1. growth movement - การเคลื่อนไหวเนื่องจากการเจริญเติบโต

2. turgor movement  - การเคลื่อนไหวเนื่องจากแรงดันเต่ง (turgor pressure)

Growth movement แบ่งออกเป็น

1. paratonic/stimulus movement -การตอบสนองจากสิ่งเร้าภายนอก
   
   1) tropism/tropic movement - ทิศการเคลื่อนที่สัมพันธ์กับทิศทางของสิ่งเร้า (โค้งเข้าหา=positive , เบนหนี = negative) แบ่งได้ดังนี้

  •  Phototropism (แสง) - positive   : ปลายยอด (ลำต้น)                                                                    

                                               -negative  : ปลายราก

  •  Thermotropism (อุณหภูมิ)
  •  Geotropism /Gravitropism (แรงโน้มถ่วง)positive : รากพืชเจริญลงดินเพื่อรับน้ำและแร่ธาตุ
                                                                                  - negative : ทิศปลายยอด/ลำต้นตรงข้ามแรงโน้มถ่วงเพื่อรับแสง  
  •  Chemeotropism (สารเคมี)
  •  Hydrotropism (น้ำ) - พืชงอกมากในที่ที่มีความชื้นมาก รากงอกเข้าหาดินที่มีน้ำ
  •  Thigmotropism (การสัมผัส) - การที่พืชเลื้อยพันหลักต่างๆ เช่น เถาวัลย์ ตำลึง พลู พริกไทย 


   2) nasty/nastic movement - ทิศการเคลื่อนที่ไม่สัมพันธ์กับสิ่งเร้า : ทิศคงที่ แบ่งได้ดังนี้

  •   photonasty (แสง) - การบาน การหุบ ของดอกไม้
  •   Thermonasty (อุณหภูมิ) - การบานของดอกบัวสวรรค์เมื่ออุณหภูมิต่ำและหุบเมื่ออุณหภูมิสูง
  •   Thigmonasty (การสัมผัส) : ไมยราบ หยาดน้ำค้าง กาบหอยแครง 

    3) Taxis / Taxic movement -การเคลื่อนไหวทั้งตัว = การเคลื่อนที่ เช่น sperm เคลื่อนเข้ารังไข่ของพืชชั้นสูง


2.  autonomic movement - การตอบสนองของสิ่งเร้าภายใน : เน้น ฮอร์โมน auxin แบ่งได้ดังนี้

    1.) nutation movement : การแกว่งหรือโยกไปมาเนื่องจากล้ำต้นส่วนยอดพืชเจริญเติบโตไม่เท่ากัน

    2.) spiral movement : การบิดล้ำต้นเป็นเกลียว เช่น พริกไทย อัญชัน ตำลึง 

     
 Turgor movement : เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของน้ำในเซลล์ ประกอบด้วย

1. contract movement - การหุบใบของต้นไมยราบ เพราะตรงโคนก้านใบ+ก้านใบย่อยมีกลุ่มเซลล์ parenchyma ที่เรียกว่า pulvinus (คุณสมบัติ 1.ใหญ่ 2.ผนังบาง 3.ไวต่อสิ่งเร้า) ทำให้เมื่อถูกสิ่งเร้าแล้วแรงดันเต่งของกลุ่มเซลล์จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทันใจด้วยการสูญเสียน้ำให้กับเซลล์ข้างเคียง ใบจึงหุบทันที แต่ผ่านไปสักครู่ น้ำก็ซึมผ่านกลับสู่ pulvunus ใหม่ แรงดันเต่งก็เลยเพิ่ม เซล์ก็เลยเต่งขึ้น ใบก็เลยกางออกเช่นเดิม
2. sleep movement (การหุบของใบยามพลบค่ำ) การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงความเข้มของแสงของพืชตระกูลถั่ว เช่น ก้ามปู มะขาม ไมยราบ ถั่ว แค กระถิน

3. guard cell movement - แรงดันเต่งลด>เซลล์เหี่ยว>ปากใบเปิด
                                                 - แรงดันเต่งเพิ่ม > เซลล์เต่ง > ปากใบเปิด


การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืชด้วยการเคลื่อนไหวแบบต่างๆที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อประสิทธิภาพในการดำรงชีวิตของพืชสรุปได้ดังนี้
1. เพื่อการเจริญเติบโต
2. เพื่อการหาอาหาร+แร่ธาตุ
3. เพื่อการเอาตัวรอดหลบหลีกอันตราย
4. เพื่อการสืบพันธุ์



plant hormone (ฮอร์โมนพืช)ควบคุมการเจริญเติบโตของพืช ประกอบด้วย

ชื่อฮอร์โมน
แหล่งผลิต
หน้าที่ควบคุม
1.ออกซิน (auxin) /indole acetic acid (IAA)
-เนื้อเยื่อเจริญปลายยอด ปลายราก แคมเบียม
- ใบอ่อน ผลอ่อน
- เยื่อหุ้มยอดอ่อน
1.ขยายขนาดเซลล์ ใบและผล
2.เร่งการเกิดราก
3.ใช้ในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
4.ยับยั้งการแตกตาข้าง
5.กระตุ้นให้รังไข่เจริญเป็นผล (โดยไม่มีการปฏิสนธิ)
6.กระตุ้นการเปลี่ยนเพศของพวกเงาะ
2. จิบเบอเรลลิน (GA)
- ผลและเมล็ดที่กำลังเจริญเติบโต
- ปลายยอดของลำต้น
- เชื้อรา
1. กระตุ้นการยืดตัวของเซลล์ระหว่างข้อ ทำให้ต้นไม้สูงขึ้น
2. กระตุ้นการงอกของเมล็ดและตา
3.กระตุ้นการติดผล
4. กระตุ้นการออกดอกของพืชที่ออกดอกเมื่อผ่านฤดูหนาว
5. เปลี่ยนเพศดอกตัวผู้ให้เป็นดอกตัวเมีย
3. ไซโทไคนิน (cytokinin)
- เนื้อเยื่อเจริญ
- ต้นอ่อนในเมล็ด
- น้ำมะพร้าว
- ยีสต์บางชนิด
1. แบ่งเซลล์
2. ชะการแก่ของผลไม้
3.กระตุ้นการตกตาข้าง
4.กระตุ้นการเกิดหน่อไม้ของแคลลัส ในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
4. เอทีลิน (Ethylene)
  เป็นแก๊ส

-ผลและใบที่แก่

1.เร่งการสุกของผลไม้
2. กระตุ้นการออกดอก
3.กระตุ้นการงอกของหัวพืชและเมล็ดพืชในระยะพัก
4. กระตุ้นการร่วงของใบไม้ ดอก ผลและการผลัดใบตามฤดูกาล
5. กระตุ้นการไหลของน้ำยาพารา
5. กรดแอบไซซิก (ABA)
เป็นสารยับยั้งการเจริญเติบโต
-ซอกใบ ตา
-หมวกราก
-ใบและผลที่แก่
1.กระตุ้นการหลุดร่วงของใบและผลนอกฤดูกาล
2.กระตุ้นการพักตัวของเมล็ด
3.กระตุ้นการแตกตาข้าง



   
*มาเพิ่มเติมแล้วจ้า

[AKB48] ว่ากันด้วยเรื่องละครโปรโมทซิงเกิล So long!

สืบเนื่องมาจากการที่ AKB48 จะวางแผงซิงเกิลที่ 30 ซึ่งเป็นซิงเกิลซากุระชื่อว่า 'So long!' นี่เอง การโปรโมทเพลงในรูปแบบละครจึงถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง โดยละครครั้งนี้จะแบ่งเป็น 3 เรื่อง 3 ทีมทั้ง A K B  ซึ่งฉายจบไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 11-13 กพ. ที่ผ่านมา

โดยวันแรกจะเป็นของ ทีม A



แสดงนำโดย ชิโนดะ มาริโกะ กับ วาตานาเบะ มายุ

วันที่ 2 ทีม K

แสดงนำโดย โอชิม่า ยูโกะ กับ มัตสึอิ จูรินะ

วันสุดท้าย ทีม B

แสดงนำโดย โคจิม่า ฮารุนะ กับ ชิมาซากิ ฮารุกะ

 แถมยังมีการเลือกตั้งด้วยนะเออ (เอากับเขาสิ) ซึ่งการเลือกตั้งจะมีสองหัวข้อด้วยกันคือ 



1.「もっともよかった作品」(ละครตอนที่ดีกว่าเรื่องอื่น)
2.「もっともよい演技をしたメンバー」(สมาชิกที่แสดงละครได้เก่งที่สุด) 



มันน่าสนุกก็ตรงนี้แหละ ตอนนี้เราเข้าเรื่องละครก่อนดีกว่า


เริ่มจากละครของทีม A



                                      

เดี๋ยวจะขอเล่าเรื่องคร่าวๆ ก่อน อาจมีผิดบ้างถูกบ้าง เพราะไอ้เรานั้นภาษายุ่นก็ไม่ค่อยกระดิกสักเท่าไหร่ แต่ก็พอดูเข้าใจ คงต้องรอคนใจดีมาทำซับให้ดูกันล่ะนะ ปล.อาจมีสปอยใครยังไม่ดูก็ข้ามได้เลยนะคะ

เนื้อเรื่องนั้นดำเนินไปอย่างเรียบๆ ในตอนแรก กล่าวถึงนางเอกซึ่งก็คือฟุตาบะ (มายุ) ซึ่งดูแล้วก็พอมองออกว่าค่อนข้างจะเป็นเด็กที่โดดเดี่ยว เป็นสมาชิกชมรมกระจายเสียงและเป็นนักเรียนบัลเล่ย์ของฮาระ คิริเอะ (มาริโกะซามะ) มาฉากแรกก็โดนป้ามาริโกะดุ (มั้ง?) เลยทีเดียว ทีนี้ก็มาถึงฉากที่มายุมาที่ห้องชมรม แล้วก็เจอเครื่องเล่นเทปเก่าๆ เทปหนึ่ง ตอนแรกก็เอาเทปไม่ออกแต่อยู่ๆ มันก็เด้งออกมาเฉย ฟุตาบะเลยลองเอามาเปิดฟังก็ได้ยินเสียงผู้ชายพูดทำนองว่า ชั้นรักเธอนะ อะไรแบบนี้เสร็จก็ร้องเพลง ฟุตาบะก็หัวเราะออกมา แล้วทีนี้ฉากมันก็ตัดไปที่มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาน่ารักเหมือนซาลาเปาน้อย =.= มาตามหาเทปที่หายไป เมื่อหาไม่เจอก็เลยอัดใหม่เนื้อหาประมาณว่าขอให้คนที่เอาเทปไปนั้นเอาเทปมาคืนด้วยไรแบบนี้ เทปมันก็เด้งมาที่ฟุตาบะ มันจะไม่มีอะไรแปลกเลยถ้าหากเทปที่เด็กผู้ชายคนนั้นอัดมันเป็นของปี 2005 ขณะที่ฟุตาบะอยู่ปี 2013 =[]=!! มันมาไงวะนั่น!? นี่แหละที่ทำให้เรื่องนี้น่าดูและน่าติดตามขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นสองคนนี้ก็สื่อสารกันทางเทปตลอด จนฟุตาบะรู้สึกชอบเด็กหนุ่มคนนั้นขึ้นมา หนุ่มน้อยซาลาเปาก็ดูจะชอบฟุตาบะเหมือนกัน แต่!! มันกลับไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ เพราะคนที่หนุ่มน้อยซาลาเปาหลงรักดันเป็นป้ามาริโกะในอดีตซะงั้น ดราม่ามันก็เริ่มตรงนี้แหละ เมื่อซาลาเปาน้อยมาบอกฟุตาบะว่าเจอผู้หญิงที่ชอบแล้วอะไรทำนองนี้ ทำให้สาวน้อยโดดเดี่ยวรู้สึกว่าตัวเองไม่เหลือใคร แล้วตอนนั้นเองที่ฟุตาบะบังเอิญไปเห็นรอยแผลที่เท้าของป้ามาริโกะ และพบว่าแท้จริงแล้วคุณครูนั้นไม่สามารถเต้นบัลเลย์ได้ดีดังเดิมอีก เราชอบฉากที่ป้ามาริโกะเอามือทุบพื้นด้วยความโศกเศร้าและเจ็บใจมาก คือแค่เห็นด้านหลังอารมณ์ก็ยังสื่อได้ชัดเจนเลย ตอนนั้นเรารู้สึกเศร้ามากเลยอ่ะ ทีนี้ฟุตาบะก็ได้รู้ความจริงอีกว่าคนที่หนุ่มน้อยซาลาเปาหลงรักคือป้ามาริโกะนั่นเอง จบการสปอยแค่นี้ (กร๊าก) เรื่องจะเป็นยังไงต่อ ก็ลองไปชมกันดูนะ

ส่วนตัวแล้วจากบรรดาละครโปรโมททั้งหมด เราชอบเรื่องนี้ที่สุด ทั้งการดำเนินเรื่อง พล็อต และตัวละคร แม้จะขัดใจไปบ้างที่สมาชิกคนอื่นออกน้อยเหลือเกิน เอาจริงๆ แล้วเหมือนมีกันแค่สองคนคือมายูยุกับป้ามาริโกะ แต่เราก็พอเข้าใจ ด้วยพล็อตและตัวเรื่อง จะให้กระจายบทขนาดนั้นคงไม่ไหวหรอกมั้ง  (แต่ถ้าจะทำจริงๆ ก็น่าจะทำได้นะ) เรื่องนี้เราประทับใจการแสดงของมายุและป้ามาก คือเราไม่ได้คาดหวังกับมายุเท่าไหร่ในตอนแรก คิดด้วยซ้ำว่ามายุไม่ค่อยเหมาะกับการแสดงละคร แต่ว่าครั้งนี้มายุแสดงออกมาได้มีเสน่ห์มากเลยทีเดียว เราดูเธอได้ไม่เบื่อเลย แถมเรารู้สึกว่ามายุแสดงละครได้ดีขึ้นมากด้วย ฉากสุดท้ายที่อยู่ใต้ต้นซากุระนั้นให้หลายอารมณ์มาก มันทั้งเหงา เศร้า และก็เหมือนว่าตัวละครนั้นพร้อมจะก้าวเดินต่อไป ฉากร้องไห้ก็สื่ออารมณ์ได้ดี กู๊ดจ๊อบ! มาพูดถึงป้ามาริโกะบ้าง ตอนแรกป้าออกมาก็เฉยๆ นะ ไม่รู้สึกอะไรมาก แต่ซีนเอามือทุบพื้นและซีนร้องไห้นี่เอาใจไปเลย!!  เนื้อเรื่องโดยรวมแล้วโอเคมาก ดูแบบไม่มีซับก็สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ และสนุกไปกับมันได้ จะให้ดูอีกหลายรอบก็ย่อมได้ =.,= ฮ่าๆๆๆ


ต่อด้วยละครของทีม K   


ละครของทีม K นั้นเป็นละครที่เราตั้งหน้าตั้งตาดูมากที่สุดเนื่องจากโอชิทั้งสองคนของเราแสดงนำ แถมแว่วมาว่าเล่นเป็นพี่น้องกันด้วยยิ่งทำให้เราตื่นเต้นมากขึ้นมาไปอีกว่าถ้ายูโกะกับจูรินะเป็นพี่น้องกันมันจะออกมาเป็นยังไง? ฮ่าๆๆ

เริ่มมาด้วยฉากที่มิโอะ (ยูโกะ) กำลังเล่นเปียโนอยู่ แล้วอยู่ๆ เธอกลับจะละทิ้งเปียโนแล้วมาหางานทำซะงั้น ทีนี้ก็มีโทรศัพท์จากน้องสาวของเธอคือสึบาซะ (จูรินะ) บอกว่าจะมาอยู่ด้วย (มั้ง) ดูเหมือนมิโอะจะไม่อยากให้น้องมาอยู่ด้วยเท่าไหร่แต่ก็ไปรับน้องอยู่ดี ไปถึงก็เจอสึบาซะกำลังยืนอยู่บนรูปปั้นเด่นหราท่ามกลางสายตาประชาชีเล่นเอามิโอะปวดหัว แถมสึบาสะนี่ออกตัวอลังการมาก เสื้อผ้าหน้าผมชีนี่อย่างเริดอ่ะค่ะ แล้วยังจะกระเป๋าสีเหลืองนั่นอีก เล่นเอาขำก๊าก ฮ่าๆๆ พอมาถึงดูเหมือนว่าสึบาสะจะพยายามให้มิโอะเล่นเปียโนให้ฟัง แต่มิโอะก็ไม่ยอมเล่นให้ฟังซะที (แน่ล่ะ คนมันจะเลิกแล้วนี่หว่า) ทางมิโอะก็มุ่งหน้าหางานทำต่อไป แต่ก็โดนเจ้าน้องตัวแสบมาป่วนทุกที (อย่างฮา) แต่ระหว่างนั้นก็มีเรื่องมาสะกิดใจมิโอะโดยที่เจ้าตัวดันไปเจอภาพตัวเองตอนเด็กที่เล่นเปียโนครั้งแรก (มั้ง) คือเหมือนยังตัดเปียโนไม่ขาดอ่ะ แถมยังมีเรื่องดราม่าขึ้นอีกเมื่อมิโอะดันไปเห็นสึบาสะเดินอยู่กับแฟนตัวเอง (ฮงโกสุดหล่อ <3) แล้วทำท่า (เหมือนจะ) จูบกัน แล้วมันก็ดันมีภาพในอดีตซ้อนทับในหัวมิโอะว่าสึบาสะก็เคยทำแบบนี้กับแฟนเก่าตนเอง มิโอะจึงเกิดอาการรับไม่ได้ อารมณ์ทั้งโกรธ เสียใจและเจ็บใจเลยมั้ง ยิ่งพอคุณน้องสึบาสะกลับมาแล้วยิ้มระรื่นหน้าตาเฉยยิ่งทำให้อารมณ์มิโอะขึ้นมากไปอีก มิโอะเลยไล่สึบาสะกลับบ้าน ถึงขั้นขอร้องเลยทีเดียว ส่วนสึบาสะก็หงอยไปเลย มิโอะเองก็ดูเศร้าไม่น้อยอาจจะรู้สึกผิดลึกๆ แต่ไม่อยากจะยอมรับ ก็แหม นั่นมันน้องสาวนี่หว่า ทีนี้อยู่ๆ ก็มีโทรศัพท์จากคุณแม่พร้อมกับข่าวว่าสึบาสะเข้าโรงพยาบาล มิโอะตกใจมากและรีบตรงดิ่งไปโรงพยาบาลทันที แล้วมิโอะก็ได้รู้ความจริงบางอย่าง (ขอไม่เฉลย ฮ่าๆ) เจ้าตัวดูสับสนมาก น้ำตาจะไหลละ แล้วคุณแฟนสุดหล่อก็เดินมาแล้วยื่นถุงกระดาษที่ตอนแรกสึบาสะจะเอาไปโชว์มิโอะแต่ไม่ได้โชว์ให้พร้อมกับพูดอะไรบางอย่าง น่าจะเกี่ยวกับสึบาสะนี่แหละแล้วมิโอะก้น้ำตาไหลออกมา ทีนี้คุณหมอก็โผล่มา จากนั้นมิโอะก็เดินเข้าไปหาสึบาสะที่ยืนอยู่ตรงดาดฟ้าของโรงพยาบาล จากนั้นทั้งคู่ก็ขอโทษและปรับความเข้าใจกันมั้ง (แปลไม่ออก ฮา) ตอนนี้บีบอารมณ์มาก ร้องไห้กันสุดๆ ไปเลย ที่นี้ฉากก็ตัดมาถึงวันงานที่มิโอะต้องเล่นเปียโน มิโอะใส่ชุดที่สึบาสะเลือกให้ งามมากค่ะ แล้วก็เล่นเปียโน ฉากนี้ซึ้งนะ ระหว่างมิโอะกับสึบาสะนั้นประดุจโลกนี้มีเพียงเราสองคนเลยทีเดียว แล้วเรื่องก็จบที่สองคนนี้เดินด้วยกันใต้ต้นซากุระ ซึ้งดี

สำหรับเรื่องนี้ พล็อตเรื่องค่อนข้างธรรมดา และไม่มีอะไรมากเท่าไหร่ เป็นการหยิบยกปัญหาเล็กๆ ปัญหาหนึ่งในสังคมขึ้นมาทำละคร คือปัญหาระหว่างพี่กับน้อง เป็นเรื่องราวหนึ่งของพี่น้องคู่หนึ่งเท่านั้น แต่มันมีเสน่ห์ขึ้นมาเพราะการแสดงอันเฉียบขาดของยูโกะและจูรินะนี่แหละ ยูโกะก็ขึ้นชื่อเรื่องการแสดงอยู่แล้ว เลยไม่อะไรเท่าไหร่ แต่คนที่ทำให้ทึ่งคือจูรินะนี่แหละ ตอนมาจิสุกะเราว่าน้องแสดงค่อนข้างแข็งเล็กน้อยนะ แต่ตอนนี้พัฒนาขึ้นมากเลยทีเดียว ทุกฉากเรียกได้ว่าน้องจัดเต็มอ่ะค่ะ อาจได้รับการฝึกปรือมาฉากยูโกะก็เป็นได้ ฮ่าๆๆๆ ยิ่งฉากเกาะกระจกนี่แบบ เอาใจพี่ไปเลยจ้ะหนู ขำก๊าก ส่วนเนื้อเรื่องสำหรับเรามันก็ธรรมดาอยู่ดี พล็อตค่อนข้างน่าเบื่อไปสักน้อย และก็มีข้อเสียเหมือนทีม A คือการกระจายบท คนอื่นนี่คือตัวประกอบดีๆ นี่เองค่ะ =_= มีบทขึ้นมาหน่อยคือคิตาริเอะ แต่ก็นะพล็อตเรื่องมันเน้นที่ปัญหาพี่น้อง กระจายบทหมดก็ไม่น่าจะไหว (มุขเดียวกับทีม A) แต่ดีอย่างที่มันมีครบทุกรส ทั้งสุข เศร้า ฮา ซึ้ง


สุดท้ายละครของทีม B


สำหรับละครทีม B นั้นเราก็ตั้งตาตั้งตารอดูไม่น้อยทีเดียว เนื่องจากเราอยากเห็นพัฒนาการของพารูรุเพราะเราคอยเอาใจช่วยตั้งแต่ได้ดู Bakaleya ต่อด้วย Majisuka 3 ซึ่งพูดตรงๆ เลยว่าพารุแสดงแข็งมาก เรื่องแรกดีหน่อยที่เล่นเป็นคุณหนู หน้าเรียบๆ นิ่งๆ แบบนั้นก็โอเค เหมาะดีเหมือนกัน แลดูสุขุม ฮ่าๆๆ แต่พอมามาจิมันเห็นได้ชัดเลยว่าพารุแสดงแข็งมาก พอมาเรื่องนี้จึงคาดหวังกับพารุไม่น้อยเลยทีเดียวว่าจะได้เห็นพัฒนาการของเจ้าตัวแค่ไหร อีกทั้งละครมันออกแนวครูกับนักเรียนซึ่งเราค่อนข้างชอบแนวนี้นะ แต่พอเอาเข้าจริงเนื้อหามันดันไปแนวเดียวกับซากุระโนะเทกามิ ทำให้ระหว่างดูเราค่อนข้างจะเบื่อไปสักหน่อย

เรื่องมันมีอยู่ว่า อาซึกะ (พารูรุ) เป็นเด็กที่แลดูเก็บกดเล็กน้อยถึงปานกลาง (อันนี้คิดเอาเอง) ไม่สุงสิงกับเพื่อน อยู่แต่กับหน้าจอมือถือคอยอัพนู่นอัพนี่แล้วจะมีคนๆ หนึ่งที่มาคอยคอมเม้นท์ให้กำลังใจเธอตลอด (ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นอาจารย์) อยู่ๆ อาจารย์โคมิยาม่า คาโอรุ (ฮารุนะ) ก็ดันมาอกว่าจะลาออกจากโรงเรียนไป แล้วอาสึกะก็ดันไปบังเอิญได้ยินว่าที่อาจารย์ออกไปนั้นก็เพราะป่วยกำลังจะตาย เธอจึงพยายามไปบอกเพื่อนๆ ถึงเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมอาจารย์จึงลาออก ดูเหมือนว่าทั้งสึสึรัน เรนัจจิ นั้นจะเศร้าและนึกถึงสิ่งที่อาจารย์เคยทำไว้ให้กับตนเอง แต่มิลกี้กลับไม่สนใจและคิดว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตนซึ่งกับให้พารูรุโกรธไม่น้อย (ขอใช้ชื่อจริงหมดเลยละกัน) แต่สุดท้ายพอมาเจอกับโอบะ มินะ เหมือนมินะจะเล่าอะไรบางอย่างให้มิลกี้ฟังและนั่นก็ทำให้มิลกี้เปลี่ยนใจ ขณะเดียวกันมันก็มีดราม่าอีกเรื่องหนึ่งคือความบาดหมางระหว่างพารูรุกับมี่จังซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุให้พารูรุเก็บตัวแบบนี้มั้ง ส่วนเหตุผลคืออะไรก็ติดตามในเรื่องนะจ๊ะ สุดท้ายเพื่ออาจารย์พารูรุจึงไปหามี่จังถึงบ้านและขอโทษแล้วบอกถึงเรื่องคุณครู มี่จังเองก็บอกว่าให้อภัยพารูรุแล้ว น่าจะเพราะอาจารย์เหมือนกัน สุดท้ายนักเรียนทุกคน (ยกเว้นมี่จัง) ก็ไปหาอาจารย์กัน แจกใบจบการศึกษากันเองเรียบร้อยพร้อมกับพูดข้อความถึงครู (มั้ง) ฮารุนะเองก็ฟังอยู่ตลอด (ฉากนอนบนเตียงสวยเวอร์) แต่ก็ขาดไปอีกคนหนึ่งก็คือมี่จังนั่นเอง  แต่สุดท้ายมี่จังก็มาแถมมาพูดถึงหน้าห้องอาจารย์ด้วยแน่ะ ส่วนเนี้ยงก็รับฟังแล้วหลับตาลงน้ำตาก็ไหล (ซึ้งมากฉากนี้) ไม่แน่ใจว่าเป็นฉากที่เนี้ยงหมดลมหายไปรึเปล่า  ทีนี้เรื่องก็จบลงโดยมีฉากซากุระเหมือนกัน โดยมีพารุ มี่จัง มิลกี้ เรนัจจิและสึสึรันเดินไปด้วยกัน จบบริบูรณ์

สำหรับเรื่องนี้ ตอนเราดู เราไม่อินเท่าอีกสองเรื่องก่อนหน้า อาจเป็นเพราะเนื้อเรื่องมันไปแนวเดียวกับซากุระโนะเทกามิ ออกแนวรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าตัดเรื่องนี้ไป เนื้อเรื่องถือว่าโอเคเลยทีเดียว ดูเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าทีม K  และซึ้งมากเลยทีเดียว 
สำหรับนักแสดงนั้น เราว่าพารุยังคงเล่นแข็งอยู่ เหมือนแต่ละฉากอารมณ์มันยังไม่สุด ทำให้เราขัดใจไม่น้อยทีเดียว ในทางกลับกันคนที่ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับดูละครเรื่องนี้คือมิลกี้ซะงั้น เราเองก็ไม่เคยเห็นมิลกี้แสดงละครมาก่อน (นอกจากในพีวี HA! แล้วน่ะนะ) ไม่เคยเหมือนกันว่าเธอจะแสดงละครได้โอเคอยู่ และฉากดราม่าคนที่ทำให้เราร้องกลับเป็นมี่จัง เราว่ามี่จังก็แสดงเก่งเอาการอยู่เหมือนกัน โดยรวมแล้วก็โอเค เราก็ยังคงเฝ้าดูพัฒนาการของพารุรุเหมือนเดิม ข้อดีอีกอย่างของเรื่องนี้คือการกระจายบท ถือว่าทั่วถึงมากเทียบกับอีกสองเรื่องที่แทบจะมีเพียงตัวเอกเท่านั้น ถูกใจแฟนๆ กันถ้วนหน้า




อย่างที่พูดไว้แต่แรกว่ามันมีการเลือกตั้งด้วย ตอนนี้ผลก็ออกมาแล้ว

ผลโหวตละคร So long! ทั้ง 3 ตอน 
อันดับหนึ่งหนึ่งได้แก่ Team B! (47,980 คะแนน)
ที่สอง Team A (39,120 คะแนน) 
ที่สาม Team K (36,240 คะแนน)

คะแนนทั้งหมดมาจากการลงคะแนนให้กับนักแสดงในแต่ละทีม ผลคะแนนที่ออกมาปรากฎว่า
1.Shimazaki Haruka (22,080 คะแนน)
2.Oshima Yuko (19,030 คะแนน)
3.Watanabe Mayu (17,000 คะแนน)
4.Matsui Jurina (13,240 คะแนน)
5.Shinoda Mariko (10,060 คะแนน)
6.Kojima Haruna (6,930 คะแนน)
7.Watanabe Miyuki (4,540 คะแนน)
8.Minegishi Minami (4,050 คะแนน)
9.Yokoyama Yui (1,540 คะแนน)
10.Kashiwagi Yuki (1,410 คะแนน)

สำหรับผลโหวตละครเรานั้นไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ แม้ว่าละครของทีม B จะเป็นละครที่เราดูแล้วเฉยๆ ที่สุดแต่พล็อตเรื่องก็น่าจะถูกใจคนส่วนมาก อีกทั้งการกระจายบทอย่างทั่วถึงก็ทำให้แฟนเทใจให้ไม่ยาก ส่วนทีม A ที่แม้จะกระจายบทได้ไม่ดีแต่ก็มีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจทำให้ได้ที่ 2 ไป และเนื่องจากเนื้อเรื่องของทีม K มันไม่ค่อยเป็นเรื่องราวเท่าไหร่เทียบกับอีกสองทีมแถมบทก็กระจายไม่ทั่วถึงทำให้พ่ายไปในที่สุด (แม้นักแสดงจะจัดเต็มกันมากก็เถอะ)

แต่ที่ทำให้เราแปลกใจคือผลโหวตนักแสดงนี่แหละ ตอนแรกเราก็คิดอยู่แล้วว่าพารุน่าจะติดหนึ่งในสิบ แต่ไม่คิดว่าจะได้ที่หนึ่งแบบนี้ เพราะที่หนึ่งที่เราเก็งไว้เล่นๆ หลังจากดูละครแล้วคือไม่ มายุ จูรินะ ก็ยูโกะ เพราะสามคนนี้จัดเต็มมาก แสดงได้เยี่ยม ทำให้เราอิน และรู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติ ดูแล้วไม่ขัดใจ เราเองก็ไม่ได้แอนตี้พารูรุหรอกนะ ออกจะเชียร์เธอด้วยซ้ำ แต่ในด้านการแสดงแล้วถ้าเทียบกับหลายๆ คนเราว่าพารูรุยังไม่เป็นที่หนึ่งในตอนนี้ (แต่อนาคตไม่แน่ รอดูต่อไป) แต่ก็นั่นแหละ นี่เป็นผลโหวต มันก็ชี้ให้เห็นเหมือนกันว่าช่วงนี้พารูรุกำลังมาแรงมาก มีแฟนจำนวนไม่น้อยที่สนับสนุนเธอ เลือกตั้งปีนี้คงมีอะไรให้ลุ้นเยอะล่ะนะ  







เน็ตล่ม T-T , Ya ya yah!

วันนี้ตื่นสายจนไม่น่าให้อภัยตัวเอง เพราะเมื่อคืนมัวแต่วุ่นวายกับบล็อก + แอร์นั้นดังสนั่นหวั่นไหวจนไม่สามารถข่มตาหลับอย่างสงบได้

พอตื่นมาก็ต้องมาพบกับความจริงที่ว่า เน็ตล่มค่ะ ล่มอลังการ โทรศัพท์บ้านก็ใช้ไม่ได้ น่าจะเป็นทั้งจังหวัดหรืออาจจะทั้งภาคใต้เลยก็ได้  ให้ตายสิพี่น้อง T-T แม่โทรไปถามเค้าก็ตอบกลับมาว่าน่าจะใช้เวลาซ่อมทั้งวัน อืม ทั้งวันจริงๆ กว่าเน็ตจะกลับมาใช้ได้ก็ปาเข้าไปบ่ายสามโมงครึ่ง

แล้วระหว่างนั้น บุคคลที่หายใจเข้าออกเป็นอินเตอร์เน็ตและขี้เกียจทำการบ้านอย่างข้าพเจ้าจะทำอะไรในวันหยุดเรียนเช่นนี้ล่ะ?

คำตอบก็คือ...ดูรายการ Ya Ya Yah ค่ะ ฮ่าๆๆๆ

สารภาพว่ามีช่วงหนึ่งที่กระหน่ำโหลดมาจนเกือบหมดปี 2004 แน่ะ แต่ก็ดองไว้ไม่ได้ดู พอมีเวลาดูก็ดันไปบ้าสาวๆ เอเคบีซะก่อน เพราะฉะนั้นวันนี้ได้ฤกษ์งามยามดี ดูติดต่อกันรวม 4 ตอนเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ

ซึ่งเทปที่เราจะกล่าวถึงนี้เป็นเทปของวันที่ 2004-04-11 (กี่ปีแล้ววะเนี่ย) 

แรกเริ่มก็อารัมภบทถึงการเต้นของเหล่าจูเนียร์ทั้งหลายอันเป็นที่มาของเกมส์ในวันนี้คือแบทเทิลแดนซ์นั่นเอง โดยจะแบ่งเป็นฝ่ายคนแก่ (=..=) และผู้เยาว์ ฮ่าๆๆ

โดยฝ่ายคนแก่มีดังนี้ : ชิเงะ คุซาโนะ เคอิจิโร่ มัสสึดะ ยูยะ และโฉะอง 
ส่วนฝั่งผู้เยาว์มีดังนี้   : ยาบุ ฮิคารุ ไทโย เคย์ อีกคนหนึ่งไม่แน่ใจ

โดยเกมส์นั้นจะให้ผู้เล่นมาเต้นตามจังหวะเพลงด้วยท่าที่คิดขึ้นเอง สองหรือสามจังหวะไม่รู้ แล้วผู้เล่นคนต่อไปต้องเต้นตามพร้อมคิดท่าใหม่ของตัวเองให้ได้ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ สลับกันไปทั้งสองฝ่าย ผู้เล่นฝ่ายไหนเต้นผิดก่อนก็เป็นอันแพ้และถูกลงโทษไป โดยผู้เล่นคนแรกก็คือ...ไทโย


แหม มาอย่างเท่ =.,= บุดูลุ้นไปมะ? ฮ่าๆๆ

สำหรับเราไทโยเป็นคนที่ไว้วางใจให้ทำเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยจะได้ กร๊ากกก เช่นพวกเล่นเกมส์อะไรแบบนี้ เป็นคนที่ดูซื่อๆ ฮาๆ น่าแกล้งทั้งที่ตัวโตกว่าใครเพื่อน แต่ถ้าเรื่องมันสมองล่ะก็ เราว่าไทโยไม่แพ้ใครเลยนะ สำหรับเกมส์นี้ไทโยทำเราอึ้งเพราะทำได้ดีมาก สุดยอดอ่ะ!

นอกจากนี้ยังมีการตัดต่อไปยังอีกกิจกรรม คือทดสอบความเป็นลูกผู้ชายอะไรสักอย่าง โดยครั้งนี้จะให้ตีกลอง (น่าจะกลองพื้นเมืองของเค้าล่ะ) ซึ่งครั้งนี้เราก็ได้เห็นช็อตบุฮิคมิเสื่อมคลายอีกแล้ว วะฮะฮ่า 


ตีกลองคู่ค่ะ ฮ่าๆๆ เข้าขากันได้ดีด้วยนะเออ =..= ขอแนะนำสาวกยาบุฮิกกะทุกคนนะคะ ว่าถ้าอยากจะเห็นโมเมนต์คู่นี้เยอะๆ ตั้งแต่วัยเยาว์แล้วล่ะก็ ไปหารายการนี้มาดูซะ แล้วคุณจะค้นพบกับแสงสว่าง (?)

อันนี้ตีกลองรวม เป็นเพลง sekai ni hitotsu dake no hana ของ Smap ค่ะ จบไปด้วยดี ฮ่าๆๆ ทุกคนเก่งมาก

พูดถึงไลฟ์ เราชอบไลฟ์ของวันนี้เหมือนกัน เนื่องจากรายการวันนี้พาเด็กๆ ไปตีกลอง ไลฟ์วันนี้เค้าถึงกับขนกลองไปไว้ที่สตูดิโอให้ยาบุฮิคกะเล่นกันเลยทีเดียว อลังการมาก 

โฮ่ๆ เท่ป่ะล่ะ =.=

อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ ยาบุฮิกกะโมเมนต์อีกแล้วค่ะท่านผู้ชม! สืบเนื่องมาจากการแข่งแดนซ์แบทเทิลผลปรากฎว่าฝั่งผู้เยาว์แพ้ไปเนื่องจากยาบุเต้นผิด ทำให้เจ้าตัวนั้นเฟลไม่น้อยเลยทีเดียว ฮิคกี้ที่รักซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ก็เลย...



ปลอบใจค่ะ กริ๊ดดดดดดดดด น่ารักมากค่ะลูก >_<///

ทางฝ่ายบุที่พอฮิคปลอบเรียบร้อยแล้วก็เลย...


หันไปจับมือกระชับมิตร =/////////////= อ๊าย มิตรภาพอันแน่นแฟ้นค่ะ ฮ่าๆๆๆ

สังเกตมานานแล้วว่านอกจากที่บุจะเป็นคนคอยสอนนู่นนี่ให้ฮิคแล้ว ฮิคก็ยังเป็นฝ่ายประคับประคองยาบุด้วย ส่วนตัวแล้วเราคิดว่ายาบุนั้นค่อนข้างเป็นเด็กที่ซนและเอาแต่ใจเล็กน้อยเนื่องจากเป็นลูกคนสุดท้อง  ส่วนฮิคนั้นก็เป็นลูกคนสุดท้องเหมือนกัน (อ้าว) แต่ว่ายังไงดีล่ะ...เราว่าทางครอบครัวฮิคนั้นค่อนข้างจะเข้มงวดทำให้ฮิคเป็นเด็กที่จริงจังและเข้มแข็งมาก สังเกตเลยว่าเวลาเล่นเกมส์แพ้ฮิคก็โวยวายนั่นแหละตามประสาเด็กแต่ก็จะกลับมายิ้มระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำใจได้อย่างรวดเร็ว ฮ่าๆๆ ขณะที่บุนั้นจะง้องแง้งไปเลย กร๊าก แต่เราว่าบุก็ง้องแง้งไปงั้นแหละที่จริง เพราะถ้าง้องแง้งงอแงเป็นนิสัยจริงๆ ก็คุมฮิคไม่ได้หรอก ฮ่าๆๆๆๆๆ ก็นั่นแหละ ด้วยบุคลิกนิสัยที่แตกต่างกันนี้ทำให้ทั้งคู่ประคับประคองซึ่งกันและกันมาจนครบสิบปีแล้ว ฮิ้ว~~

ปิดท้ายรายการอันสุดแสนจะประทับใจ คือการถ่ายรูปพุริคู่กันระหว่างคุซาโนะกับฮิคารุ...

น่ารักใช่มั้ยล่าา >O<////// รอยยิ้มไอดอลของฮิคารุ ฮ่าๆๆๆๆๆ